ทริปนี้เป็นการไปไต้หวันครั้งที่ 3 ของเรา จากครั้งแรกที่เน้นเที่ยวเต็มๆ และครั้งที่สองเน้นเก็บตกจิ่วเฟิ่นมาแล้ว ครั้งนี้เลยไม่ได้มีการแพลนอะไรกันเลย รู้แต่ว่าอยากไปไหนสักที่ แต่ยุ่งและไม่มีเวลาจะวางแผนใดๆ รู้แต่ว่าอยากกินของอร่อยๆ สุดท้ายเลยมาจบลงที่ไต้หวันเพราะเหตุจากช่วงนี้กระแสชานมไข่มุกกำลังมาแรง ไอ้เราเองนี่ก็โดนอิทธิพลมาเต็มๆ เลยทำให้เกิดไอเดียว่าจะทำทริปรีวิวชานมไข่มุกที่ไต้หวันไปเลย

สำหรับสายการบินเลือกเป็นการบินไทยเพราะเอาง่าย + สบายอีกนั่นแหล่ะ โรงแรมนี่ก็เลือก Via Hotel โรงแรมเดิมที่เคยไปมา 2 ครั้งนี้ รวมครั้งนี้ก็ครั้งที่ 3 ละ เพราะด้วยราคา+ห้องดี+ทำเลดี เอาโดยรวมแล้วเป็นโรงแรมที่ตอบโจทย์มากๆ จนหาโรงแรมอื่นมาสู้ยังไม่ได้ สุดท้ายเลยจบลงที่เดิม ?

15-Feb-2019

ออกจากบ้านตั้งแต่ตีห้า เพราะบิน flight เช้า เครื่องออก 8:15 กะว่าไปถึงก่อน 6 โมงเช้า แล้วจะไปหาอะไรกินที่เลานจ์สักหน่อย เราใช้บัตร Priority Pass เลือกเข้า Miracle First Class Lounge ที่อยู่ zone D บริเวณแถวๆหน้า Gate D6 อาหารไม่ได้เยอะมากมาย แต่ถือว่าโอเคเลย มาตอนเช้าๆนี่ส่วนที่เป็น open kitchen ยังไม่เปิดบริการ ตอนมาอีกครั้งที่เป็นรอบบ่ายจะมีให้สั่งอาหารได้อยู่ 3 อย่าง เราชอบเลานจ์นี้นะ ใหญ่ดี ที่นั่งเยอะ ถึงอาหารไม่ได้เยอะมากมายแต่เราเน้นความสงบมากกว่า อีกอย่างคือเดี๋ยวขึ้นเครื่องไปไม่นานก็ต้องกินอีกละ ?

ได้เวลา Boarding ก็เดินกันไปขึ้นเครื่อง พวกเราบิน Flight TG632 เครื่องบินค่อนข้างใหม่เหมือนครั้งที่แล้ว จอใหม่ มี USB ให้เสียบชาร์จได้สบายเลย การบินไทย Route นี่ดีใช้เครื่องใหม่ บาง Route นี่เครื่องเก่าๆ พอเครื่องออกไปราวๆชม.ก็เสิร์ฟอาหาร วันนี้เป็นบะหมี่ไก่ รสชาติใช้ได้ ครัวซองค์อร่อย

เครื่องลงจอดที่ไทเปตอนเกือบๆบ่ายโมง ออกมาปุ๊บก็ขอแวะซื้อ Data Sim ก่อน เราซื้อก่อนผ่าน immigration นะ คนน้อยดี ตรงจุดนี้จะมีหลายๆเจ้าให้เลือก ราคาใกล้ๆกัน คราวนี้เราเลือกของ T Star อยู่ 4 วันเลยเลือก Plan B (5 Days unlimited Data + 50$ call & text) ราคา 250 NT

เสร็จเรียบร้อยก็ไปต่อคิวตม. คนล้นหลามเว่อร์ๆ แล้วก็ลงไปขึ้นรถไฟเข้าเมือง มุ่งหน้า Taipei Main Station

ถึงที่ Taipei Main Station เราใช้วิธีนั่ง Taxi มาที่ Ximending เลย สะดวกดี เพราะมันไม่ไกลกัน เสียค่า Taxi ประมาณร้อยกว่าบาทสำหรับสองคน มาถึงก็เช็คอินเข้า Via Hotel ที่จองไว้ ห้องดีเหมือนเดิม ชอบที่ทีวีจอใหญ่ดี แต่เสียดายเอาหนังใส่ usb มาแต่เสียบดูจาก TV ไม่ได้ เหมือนเครื่องมันไม่รับ ?

เก็บกระเป๋าเรียบร้อย ช่วงนั้นเป็นช่วงบ่ายสามกว่าๆละ เรามีแพลนกันว่าครั้งนี้ขอมาซ้ำ Mala Yuanyang Hotpot เจ้าเก่าที่เคยมาในทริปแรกกันหน่อย เพราะโดยรวมแล้วประทับใจกว่า Xin Mala Hotpot ที่ไปกินในทริปที่ 2 นิดๆ ถูกกว่าด้วย และถ้าไปถึงร้านก่อนสี่โมงเย็นจะได้ราคาถูกกว่าประมาณคนละ 100 บาท ราคาเนทแล้วอยู่ที่ราวๆคนละ 600 บาทเท่านั้น แถมไม่มีคิวซะด้วย ดีงามอ้ะ

กินกันอิ่มพุงเกือบแตก ก็เดินย่อยเบาๆกันอยู่ในย่าน Ximending ซะหน่อย หลายๆจุดในย่านนี้จะมีการแสดงเปิดหมวกหลากหลายแบบสลับสับเปลี่ยนมาให้ดูเรื่อยๆ เค้ามีความสามารถกันทุกรายเลย เท่าที่เห็นนะ คนก็มุงดูกันเยอะเลย

เดินสักพักพวกเราก็นั่งรถไฟไปตลาด Gongguan กัน เพื่อสิ่งเดียว นั่นคือชานมไข่มุกคุณลุงเฉิน (Chen San Ding) ที่ประทับใจมากมาตั้งแต่ครั้งที่แล้ว ครั้งนี้ประทับใจน้อยลงนิดเดียว เพราะเค้าให้น้ำแข็งน้อย ทำให้ไม่ค่อยเย็นมากเท่าไหร่ แต่รสชาติยังเด็ดเหมือนเดิม และยังคงยกให้ร้านคุณลุงเป็น #1 ชานมไข่มุกที่อร่อยที่สุดอยู่ดี แถมราคาแค่แก้วละ 40NT มันคือดีงามมากทั้งในแง่รสชาติ และราคา

เราเดินเล่นในตลาดนี้แป๊บเดียว เพราะเอาจริงๆตลาดนี้ไม่ค่อยมีอะไรมากเท่าไหร่ แต่อาจจะเหมาะสำหรับคนที่มาเดินหาพวกรองเท้าผ้าใบ เพราะมีร้านขายเยอะมาก แต่พอดีเที่ยวนี้เราไม่ได้ตั้งใจมาซื้อรองเท้าเลยไม่ได้เดินดูเท่าไหร่ ว่าแล้วก็นั่งรถไฟกลับถิ่น Ximending ของเรากันดีกว่า ชอบย่านนี้เพราะคึกคัก มีทั้งของกิน ของช้อป ร้านจับตุ๊กตาเยอะมาก (ดูดเงินเราได้เยอะมาก จับตั้งแต่วันแรกจนวันสุดท้ายหมดเป็นพัน ได้มา 1 ตัวถ้วนในวันสุดท้าย ?)

เดินเล่นสักพัก เริ่มกินต่อได้ละ ขอจัดไก่ทอด Monga พร้อมโรตีไต้หวัน (Scallion Pancake) ร้านโปรดหน่อย ร้านนี้ครั้งก่อนที่มากินยังเล็กๆอยู่เลย ครั้งนี้ดูกิจการขยายใหญ่ขึ้น ร้านอยู่ตรงป้าย Famous Tea in Taiwan หาไม่ยาก ไก่ทอดกับโรตีนี่เป็นของกินที่ไม่พลาดทุกครั้งที่มาไต้หวัน เพราะมันเด็ดมากๆ พอซื้อเสร็จก็เดินถือขึ้นมากินบน lobby โรงแรม เพราะมีที่นั่งพร้อมเครื่องดื่มต่างๆให้พร้อม ได้นั่งพักขาไปด้วยในตัว ติดใจรร.นี้ก็เพราะมันสะดวกแบบนี้นี่แหล่ะ

16-Feb-2019

วันนี้ตื่นกันมาแบบสายๆแบบกินทีรอบบ่ายเลย 555+ มื้อแรกวันนี้เรามุ่งหน้าตลาดปลาไทเปกัน เรามาแบบเอาเร็วเอาสะดวกน่ะนะ คือนั่ง Taxi มากันเลย

เดินเข้ามาหน่อยตรงนี้จะเรียกว่า Addiction Aquatic Development ด้านในจะมีส่วนที่เป็นเป็นบ่อปลา ติดๆกันจะเป็น supermarket มีพวกซูชิ ปลาดิบ อาหารปรุงสุก ของหวานให้เลือกซื้อออกมาทานด้านนอกได้เลย หรือถ้าอยากทานแบบให้เชฟทำสดๆตรงนั้นก็มีร้านด้านในเหมือนกัน แต่คิวก็จะยาวๆหน่อย เห็นคนส่วนใหญ่ก็ซื้อที่เค้าแพคไว้แล้วออกไปทานด้านนอกกันนะ เดินดูแล้วน่ากินไปหมดเลยอ่ะ ?

เกือบจะหยิบตะกร้ามาคว้าๆทุกอย่างที่อยากกินละ แต่พอดีไปเช็คคิวร้าน sushi bar ด้านในแล้วดูไม่น่ารอนาน เลยเลือกกินที่ร้านนี้เลยดีกว่า สรุปรอราวๆ 15 นาทีก็ได้คิว ดูเมนูแล้วนึกภาพไม่ออกว่าจะออกมาหน้าตายังไง ก็เลยลองจิ้มๆสั่งมาดู สรุปบอกเลยว่าเด็ดทุกตัวจริงๆ โดยเฉพาะ “Addiction Nigiri Sushi Combo (460 NT) + Grilled Salmon (250 NT) + Grilled Scallop (180 NT)” คือรสชาติมันแตกต่างกันจริงๆนะ ซูชิมีความสุดนุ่มละมุน ข้าวของเค้าก็เด็ดมาก set ซูชินี้คุ้มมากๆด้วย เพราะได้ซุปมิโสะถ้วยใหญ่มากๆแถมมีเนื้อปลาชิ้นโตๆมาให้อีกหลายชิ้น ส่วนแซลมอนนี่ย่างมาได้เป๊ะมากๆ ปลามาชิ้นใหญ่แทบจะสองเท่าของร้านที่เมืองไทย แถมเนื้อปลานุ่มและสดมากๆ กินแล้วฟินจริงๆ เอาจริงๆไม่เคยกินปลาแซลมอนย่างที่ไหนอร่อยเท่านี้อ่ะ บอกเลยมาไต้หวันครั้งหน้าเราจะกลับมาที่นี่อีกแน่นอน!!

กินกันจนพุงตึงละ เลยไปเดินย่อยกันที่ Syntrend Creative Park อยู่ไม่ไกลเท่าไหร่จากตลาดปลาไทเป แต่ก็ใช้วิธีเรียก Taxi กันไปอีกนั่นแหล่ะ แห่ะๆ ที่นี่จะเป็นเหมือนแหล่งรวบรวม Gadgets, IT, ของเล่น ของสะสม ต่างๆ มีหลายชั้น เดินเล่นได้เพลินๆเลยแหล่ะ พอดีช่วงที่ไปมีงาน Disney Motor พอดี เด็กๆเพียบ ?

เดินเล่นพักนึง ย่อยละ หิวหนม เลยแวะลงไปชั้นล่างของตึกจะเป็นเหมือน food court แวะไปซื้อขนมร้านไข่ขี้เกียจ มากินกับไอศกรีม soft serve ของ 7-11 พร้อม ชีสเค้กที่ซื้อติดมาจากตลาดปลาไทเป โหยยยย ชีสเค้กอร่อยมากๆๆๆๆๆ ไอติม 7-11 นี่ก็อร่อยเหมือนเดิม มาทุกทีก็ต้องกินทุกที มันดีมากกกกกก

ตกเย็นก็มุ่งหน้าไป NingXia Night Market ตลาดนี้ของกินเยอะเลยนะ แต่คนหนาแน่นจนเดินแทบไม่ได้ เลยกลายเป็นว่าไม่ได้หยุดกินอะไรเลย

สุดท้ายไม่อยากเสียเที่ยวเลยเดินเข้าร้านไปร้านนึง สั่งซุปกระดูกหมู + ออส่วน มากิน รสชาติก็ธรรมดาทั่วๆไปแฮะ ชอบบักกุ๊ดเต๋แนวสิงคโปร์มากกว่าเยอะอ่ะ ?

ชะแว้บกลับมาที่ถิ่นฐานเราย่าน Ximending ดีกว่า เดินมาเจอชานมไข่มุกร้าน Banquest ก็จัดมาเลย รสชาติใช้ได้อยู่นะ แล้วก็เดินไปซื้อไก่ทอด กับ Coke Fiber + (zero sugar) มานั่งกินพักขาบน lobby โรงแรมด้วย เอออร่อยอ่ะ อยากให้เมืองไทยมีขายบ้าง

ทริปชิลๆแบบนี้มันจะขาดการนั่งดริงค์รอบดึกไปได้ไง ด้วยความที่เราติดใจย่าน Red House ตั้งแต่ทริปคราวก่อน เพราะมีร้านนั่งดื่มให้เลือกเพียบ คราวนี้เลยขอกลับมาถิ่นเดิม แต่ลองร้านใหม่ดูบ้าง หลังจากเดินๆดูแล้ว เลือกนั่งร้าน Sol Bistro ที่อยู่ด้านในสุดเลย ร้านนี้ติดใจกลับมานั่ง 2 รอบในทริปนี้เลยล่ะ เพราะเฟรนช์ฟรายส์อร่อย และตัว Orion Draft Beer ของที่นี่ก็อร่อย ดื่มง่าย ไม่แพงด้วย แถมมี Hoegaaden ของโปรดอีกตะหาก

17-Feb-2019 

เนื่องจากเมื่อคืนดริ๊งค์กันยันดึก วันนี้เลยเริ่มวันซะบ่ายๆเลย ? ข้าวเช้ารอบบ่ายมื้อแรกของวันเลยเป็นร้านใน Ximending ชื่อ 天天利美食坊  ที่เราติดใจตั้งแต่ครั้งก่อน มาครั้งนี้มีเมนูไทยแล้ว ส่วนคิวรอบบ่ายๆแบบนี้ก็ยังมีอยู่เหมือนเดิม แต่รอไม่นานนะ รสชาติไม่ต้องบอกเลย อร่อยเหมือนเดิม

ล้างปากกันด้วย Tiger Sugar ร้านที่ตั้งใจมากินสุดๆในทริปนี้ อร่อยเลยนะ แต่ไม่ถึงกับพีคมาก เอาไป 8/10 ละกัน

เดินต่อมาอีกไม่ไกล เจอ Xing Fu Tang ร้านดังในลิสต์อีกร้าน ก็จัดมาเปรียบเทียบเลยทันที … อืมมม ตัดสินยากแฮะ ดีคนละแบบกับ Tiger Sugar เอาเป็น 8/10 เท่ากันละกัน ร้านไหนคิวน้อยกว่ากินร้านนั้นละกันนะ 555+

หลังจากนั้นก็เดินช้อปกันไปเรื่อยใน Ximending นี่แหล่ะ ที่ชอบที่นี่เพราะมันเดินได้ไม่เบื่อเลย ผู้คนเยอะ แต่ไม่ถึงกับเดินเบียดกัน บรรยากาศมัน active มีสีสันดี

ร้านชานมไข่มุกร้านถัดไป เป็นร้านที่เปิ้ลไปได้มาจากในเพจสักเพจนึงนี่แหล่ะ ชื่อ Hua Da Nai Tea แต่เราว่าเฉยๆมากๆ แต่เปิ้ลบอกดีอยู่นะ แต่โดยรวมเราว่าไปร้านอื่นดีกว่าสำหรับเรานะ 555++

เดินกันจนเย็น ได้เวลาไปตะลุยตลาดกลางคืนกันต่อ พลาดไม่ได้กับ Shilin Night Market มาทุกทีก็ไปทุกที เดินหาของกินกันไปยาวๆ ครั้งนี้ได้ลองเฟรนช์ฟรายส์แท่งยาวๆด้วย พอดีเห็นคนเดินถือกันเพียบ เออ มันอร่อยจริงๆนั่นแหล่ะ เค้ามีน้ำจิ้มให้เลือกเยอะดี กินเพลินมาก ดีไซน์ packaging ดีด้วย ถือง่ายเลย

ครั้งที่แล้วเราพลาด Original Cake เค้กไข่เจ้าดังแห่งตลาด Shilin เพราะตอนมาครั้งก่อนคิวยาวมากกกกกกกกจนถอดใจ แต่ครั้งนี้มองแล้วคิวไม่ยาวเกิน เลยรอ ระหว่างนั้นก็ดูลีลาพนักงานตัดเค้กไปด้วย อาตี๋นี่ลีลาเด็ดจริง Original Cake ราคาชิ้นละแค่ 90 NT แต่ขนาดนี่กินได้ 3-4 คนกันเลย ส่วนรสชาติก็เด็ดสมกับที่รอ คือมันนุ่มมากกกกกกกก ถึงจะชิ้นใหญ่มาก แต่เอาจริงๆให้กินไปเรื่อยๆก็หมด เพราะมันเบามาก แต่ต้องกินตอนอุ่นๆเลยนะ เพราะถ้าเย็นแล้วความอร่อยจะหายไปเยอะเลย

นอกจากของกิน ของช้อปต่างๆแล้ว ในตลาด Shilin นี่ยังมีร้านเกมส์ให้เล่นอีกเพียบเลยนะ เกมส์ก็จะเป็นแนวงานวัดทั้งหลาย อย่างปาเป้า ปาลูกบอล โยนห่วง ยิงปืน หรือแบบแนวตู้เกมส์ ยิงพินบอล อะไรแบบนั้นก็มี ล่ารางวัลกันได้เพลินๆ รางวัลส่วนใหญ่ก็จะเป็นตุ๊กตา คนที่ชอบแนวนี้น่าจะฟินนะ ครั้งก่อนที่เปิ้ลเล่นนี่ เล่นเท่าไหร่ก็ไม่ได้สักที เลยขอจ่ายเงินเพิ่มอีกหน่อย แลกตุ๊กตามาเลย เค้าก็โอเคด้วย 555++

เดินเล่นกันอยู่ในตลาด Shilin จนดึก ก็กลับถิ่น Ximending ของเรา ย่านนี้นี่ยังคึกคักยาวไปจนถึงเที่ยงคืนตีหนึ่งร้านก็ยังเปิดอยู่ เราเลยไปเล่นตู้จับตุ๊กตากันต่อ คือทริปนี้หมดไปรวมๆกันน่าจะ 2-3 พันแต่ไม่ได้สักกะตัว มันเจ็บใจอยู่นะ สุดท้ายเปิ้ลก็จับได้มาเป็นที่ระลึกตัวนึง!!! ตัวไหนก็ไม่เป็นไรขอให้ได้ พอได้แล้วก็สบายใจ ถือว่าไม่มือเปล่ากลับไทย เลิกเล่นตู้ตุ๊กตาได้ซะที ?

18-Feb-2019

วันนี้ตื่นกันแบบสายๆตามเคย แล้วก็ check-out พร้อมฝากกระเป๋าไว้ที่โรงแรม ก่อนจะไปกินข้าวกัน วันนี้มุ่งมั่นว่าต้องไปโดนเสี่ยวหลงเปาที่ร้าน Hangzhou Xiao Long Bao ให้ได้ เพราะร้านนี้ติดอยู่ในลิสต์ Michelin Bib Gourmand 2018 ด้วย วิธีการไปก็คือต้องนั่งรถไฟไปลง Dongmen Station Exit 3 แล้วเดินตาม google maps มาประมาณนึง มาถึงทางร้านมีคิวยาวประมาณนึง แต่รอไม่นานมาก เราก็ไปรับคิวก่อนแล้วขอเมนูภาษาอังกฤษมาดู แต่ในใบรายการที่เค้าให้ติ๊กรอไว้ระหว่างรอคิวนี่มันไม่มีภาษาอังกฤษอ่ะ เพราะงั้นก็เลยต้องใช้วิธีเทียบตัวหนังสือเอาเลยจ้า

จากร้านนี้เดินไปไม่ไกลเป็นร้านขายขนมเจ้าดัง Red Sakura เราเลยได้โอกาสแวะซื้อเป็นของฝากซะเลย packaging ร้านนี้เป็นลาย Kitty กับ Gudetama ทำเอาอยากซื้อไปหมดทุกอย่างเลย แถมขนมเค้าก็อร่อยด้วย

จากนั้นพวกเราก็กลับถิ่น Ximending กัน ก่อนจะเข้ารร.ไปเอากระเป๋าเตรียมไปสนามบิน ยังพอมีเวลาเหลือ เลยเดินหาชานมไข่มุกกินต่อ ก็ตั้งใจไว้แล้วว่าจะมาตามล่าร้านชานมนี่เนอะ วันนี้ยังไม่ได้กินเลย เพราะงั้นขอจัดร้านประจำที่มาทุกครั้งต้องกินเหมือนเดิม กับร้าน 50Lan ละกัน ร้านนี้รสชาติดี ราคาไม่แพง กินได้เรื่อยๆแต่ไม่หวือหวาดี เอาเป็นคิดอะไรไม่ออก สั่งชานมไข่มุกร้านนี้กินได้ ไม่น่าบ่น

เดินผ่านร้านขนมร้านนี้ดูมันน่ากินมาก อดไม่ไหวจัดมาอีกแท่งละกัน อร่อยยยยย 

ก่อนขึ้นไปเอากระเป๋า ขอจัดชานมไข่มุกอีกร้านละกัน ร้านสุดท้ายนี้ชื่อร้าน good good อยู่ตรงหัวมุมถนน ใกล้ๆ KFC  ร้านเหมือนจะเพิ่งมาเปิดไม่นาน (มั๊ง) เพราะปีที่แล้วมายังไม่เห็นอ่ะ สั่งเป็น Brown Sugar Bubble Milk หน้าตาดี แต่รสชาติไม่ได้เลยนะ เราว่ามันนมแบบเลี่ยนๆมากเลยร้านนี้ คือร้านอื่นๆนมจะอร่อย แต่ร้านนี้ดูนมเค้าไม่ผ่านอ่ะ เข้มข้นแบบเลี่ยนจัด ขอผ่าน

เฟลกับแก้วสุดท้ายของทริปแล้ว ก็ขึ้นไปเอากระเป๋าที่ฝากไว้ที่รร.แล้วก็ตรงดิ่งไปสนามบินกันละ เรากลับกันเหมือนเดิม คือเหมาแท๊กซี่ไปส่งที่ Taipei Main Station ราคาประมาณร้อยกว่า NT จากนั้นก็นั่งรถไฟตรงดิ่งไปสนามบินกันเลย

หลังจาก load กระเป๋าอะไรเรียบร้อย ก็มาหาไรกินต่อที่ Plaza Premium Lounge กัน ของกินไม่เยอะเท่าไหร่ แต่มีอาหารจานร้อนที่สั่งให้เชฟทำให้ได้ 3-4 อย่าง รวมทั้งที่เป็นแบบตักเองได้เลย มีที่กดเบียร์สดให้สำหรับคอเบียร์ด้วย

เครื่องขากลับ Flight TG635 ไม่ใหม่เหมือนขามา แต่ก็โอเค อาหารที่เสิร์ฟเป็นหมูกับไก่ รสชาติธรรมดาๆ ใครอยากกรึ่มต่อก็สั่งเบียร์ได้ พี่ๆน้องๆแอร์ยินดีบริการตลอดเที่ยวบิน ?

Flight นี้ถึงไทยประมาณ 5 ทุ่มตรง เครื่องลงตรงเวลามาก แล้วก็เป็นอันจบทริปตะลุยกินแบบตัวกลมกลับมากันสมใจอยาก เป็นทริปที่ใช้การกินในการรีแลกซ์จริงๆ แต่บอกเลยว่าอ้วนจากชานมไข่มุกนี่ลดยากมาก กลับมาทริปนี้ใช้กรรมไปอีกนานพอดูเลยแหล่ะ ใครไม่เชื่อลองดูได้ ?

ท้ายนี้แถมโพสที่รวบรวมของกินตลาดกลางคืน/ชานมไข่มุก ที่โพสลง fb page ไว้ด้วยเลย

สนใจตามไปคุยหรือติดตามกันต่อได้ตามช่องทางด้านล่างนี้เลย

Facebook Page

Wongnai  

Instagram 

Comments