ซื้อ Voucher  “Art Mai Gallery Nimman Hotel” มาจากในงานไทยเที่ยวไทยไว้ตั้งแต่เดือนมีนาฯ จะหมดอายุเดือนตุลาฯนี้ละ พอมีจังหวะเลยต้องรีบไปใช้ เพราะช่วงที่ผ่านมางานเข้ามากมายทั้งเราทั้งเปิ้ล ถ้าไม่รีบเดี๋ยวจะอดไปซะก่อน คุยไปคุยมาว่าจะไปวันไหนได้บ้าง สุดท้ายก็มาลงตัวกันวันที่ 16-18 กันยาฯที่ผ่านมานี่แหล่ะ

พอได้วันเราก็ลอง search หาตั๋วเครื่องบินดูว่าไปสายการบินไหนที่ราคาโอเค เวลาโอเค ก็มาได้ Thai Lion Air จาก Traveloka ที่ตรงกับ requirement ที่ต้องการ คือออกจากดอนเมืองสายๆวันศุกร์ กลับค่ำๆวันอาทิตย์ โดยที่ราคาไม่แรงเกินไป เราจองล่วงหน้าไม่นาน ได้มาราคาไป-กลับ  2 คน 4,900 บาท เลือกที่นั่งได้ + รวมโหลดกระเป๋าได้คนละ 15 kg พร้อมกับมีน้ำดื่มกับขนมเล็กน้อยแจกบนเครื่องบิน ถือว่าโอเคอยู่นะ
lion-air-bkk-cnx-bkk

ขั้นตอนต่อไปคือจองรถ ครั้งนี้กลับไปซบอก Avis เหมือนเดิม เพราะ Chic Car ไม่มีโปรโมชั่นแระ ราคาเทียบกัน Avis เลยถูกกว่า ตอนจองก็ request Yaris ไป เพราะยังไม่เคยลองขับเลย (ที่ผ่านมาก็เคย request นะ แต่ได้ vios มาแทนทุกที ขับจนเบื่อละ ครั้งนี้ก็เลยยังพยายามต่อไป 555++) จองรถ 2 วัน + Late Return 4 ชม. = 1,340 บาท (การจองรถนี่มันจะฟินตรงที่เราได้ใช้ Late Return 4 ชม. อย่างคุ้มค่า และจากทริปที่ผ่านๆมาเราก็ใช้มันได้เต็มที่เกือบทุกครั้งเลยแฮะ ปลื้มมมอ่ะ  :mrgreen:) อันนี้จะมีประกันแบบพื้นฐานให้ แต่เราไปเลือกจ่ายเพิ่มวันละประมาณ 200 บาทจะได้เป็นประกันชั้น 1 สรุปราคารถเช่าก็วันละเกือบๆ 900 บาท ก็ถือว่ายังโอเคนะ ไม่ต่างกับเวลาไปซื้อ Voucher ตามงานไทยเที่ยวไทย ที่เป็น rate ราคา weekend

16 Sept 2016
นัดเจอกับเปิ้ลที่ดอนเมืองตอน 11:30 สายการบิน Thai Lion Air ต้องไป Check-in ที่ Terminal 2 ตอนเราไปถึงคิวไม่ค่อยยาว รอแค่ประมาณ 5 นาทีก็ได้โหลดกระเป๋าละ จากนั้นก็ผ่าน security check ไปกิน subway กับ burger king รองท้องกันก่อน พอได้เวลา boarding ก็ไปรอหน้า Gate … สำหรับ Thai Lion Air นี่ต้องนั่งรถบัสไปขึ้นเครื่อง ไม่ได้เดินขึ้นเครื่องได้โดยตรง ที่นั่งบนเครื่องบินเป็นแบบ 3-3 เบาะไม่อึดอัดสำหรับเรา แต่ถ้าคนสูงๆเกิน 170 เข่าอาจจะชิดเบาะหน้าได้ พอเครื่อง Take off ไปได้สักพัก แอร์ก็แจกน้ำดื่มกับขนมเวเฟอร์ให้คนละชิ้น (ขากลับก็แบบเดียวกัน)

ถึงสนามบินเชียงใหม่ ก็ไปติดต่อรับรถที่ Avis คราวนี้ได้ Yaris ตามที่ request มาสักทีนะ (แต่พอลองขับแล้วไม่ค่อยปลื้มเท่าไหร่แฮะ ^^”) จุดหมายแรกมุ่งหน้าม่อนแจ่ม ตามที่คุณนายเปิ้ล request โชคดีที่ตอนมาถึงเชียงใหม่ฝนหยุดตกไปเรียบร้อยแล้ว แพลนที่จะไปม่อนแจ่มเลยไม่ต้องยกเลิก เพราะทางขึ้นก็ค่อนข้างโหดชันเหมือนกัน ระยะทางจากตัวเมืองไปม่อนแจ่มไม่ไกล แต่เป็นทางขึ้นเขาซะเยอะ แถมถนนหลังฝนตกไม่นาน ยังเปียกๆอยู่บ้างแต่ไม่มาก ขับได้แบบมีเสียวนิดๆช่วงปลายๆก่อนถึงม่อนแจ่ม ถ้าขึ้นไปถึงด้านบนสุดจะมีที่จอดรถ แต่ต้องไปเสี่ยงเอาว่าจะเหลือที่จอดมั๊ย เพราะคนจอดกันเพียบเหมือนกัน
ที่จอดรถด้านบนม่อนแจ่ม

สภาพด้านบนยังเห็นร่องรอยหลังฝนตกอยู่เยอะ พื้นยังเปียกๆอยู่ทำให้การเดินถ่ายรูปไม่ง่ายเท่าไหร่ (แต่ยังไงก็ไม่เกินความสามารถคุณนายเค้าล่ะ)
เดินเล่นถ่ายรูปกันจนห้าโมง เริ่มหิวนิดๆ เลยไปหาไรรองท้องกันหน่อยที่ร้านอาหารหนึ่งเดียวที่มี แต่เมนูค่อนข้างเยอะและหลากหลายเลยล่ะ ด้วยความที่ไม่อยากอิ่มมากเลยสั่งกันแค่ไก่ทอด กับ วาฟเฟิลไอติม พร้อมลองคาปูเย็น กับชาร้อนด้วย สั่งเสร็จจ่ายเงินแล้วก็ลงมานั่งเล่นที่เพิงด้านล่างชมวิว พร้อมจับ Pokemon รอไปด้วย (ขอบอกว่าที่นี่มีทั้งเสาพร้อมโปเกม่อนให้จับเรื่อยๆด้วย อย่าได้ดูถูก!!)
ระหว่างรออาหารก็ถ่ายบรรยากาศเพิงที่นั่งชมวิวไปด้วย (ในรูปเป็นสาวที่นั่งอยู่เพิงติดๆกัน เสียดายไม่ได้มาคนเดียว  :mrgreen: )

กลับมาสาวเพิงเราบ้าง ^^”
ระหว่างรออาหารบนเพิง @ม่อนแจ่มรอไม่นานพนักงานก็เดินลงมาเสิร์ฟอาหารที่เพิงของเรา ตอนแรกไม่ได้คาดหวัง แต่สรุปว่ารสชาติดีงามทุกอย่างแบบเกินคาดมากๆเลยแฮะ ประทับใจๆ
ทานเสร็จนั่งต่อจนลืมดูเวลา รู้สึกตัวอีกทีตอนเริ่มเห็นหมอกลง ดูเวลาจะหกโมงเย็นแล้ว! ต้องรีบลงเขาละเดี๋ยวทั้งหมอกทั้งมืด แถมหมอกลงเร็วมากๆ เลยรีบเผ่นลงมาเลย
 ขับรถกลับมาเช็คอินที่  “Art Mai Gallery Nimman Hotel”  โรงแรมอยู่ในซ.นิมมาน 3 หน้าปากซอยเป็นร้านกู มีที่จอดรถด้านหน้ารร.ราวๆ 4-5 คัน (แต่ที่เราอยู่ 2 คืนก็มีที่จอดว่างตลอด) ภายในบริเวณ lobby เป็น Art Gallery + Gift Shop ในตัว โรงแรมแต่งออกมาแนว Art สมชื่อเลย เท่ห์ดี ระหว่างรอเจ้าหน้าที่จัดการเรื่องห้องก็มี Welcome Drink มาให้ เสิร์ฟมาน่ารัก หวานเจี๊ยบบบบบเลย

เราได้ห้องพักบนชั้น 3 ห้อง 315 ผนังเป็นปูน ทีวีใหญ่ เตียงนอนหลับสบายใช้ได้เลย มี Gimmick เล็กๆคือมีที่นั่งให้วาดรูปเล่นให้คนเข้าพักได้วาดรูปเล่นด้วย น่ารักเชียะ

สำรวจห้อง + เก็บของเสร็จ ก็ไปซดเบียร์กันดีกว่า จากรร.เดินไปร้าน Beer Republic ได้ไม่ไกล ไม่ต้องขับรถไป  เลือกนั่งด้านนอก เป็น Counter Bar ลมโปร่งๆชิลๆ ลองสั่ง  Tester 10 ชนิดมาลองดูว่าจะชอบเบียร์สดยี่ห้อไหน ร้านนี้ข้อดีคือมีเบียร์สดต่างประเทศเยอะมาก tester ทั้ง 10 ชนิดเป็นเบียร์สดนอกทั้งหมด ไม่มีซ้ำเลย แต่ที่น่าแปลกใจคือร้านนี้ไม่มี Hoegaarden แบบธรรมดา มีแต่ Rose เท่านั้น! สุดท้ายหลังจากชิมครบทุกแบบแล้วเลยสั่งเพิ่มเป็นตัว Mont Blanc Blanche เพราะรสชาติเหมือน Hoegaarden ที่สุด (แบบว่าชอบแนวนี้ แห่ะๆๆ)
ของกินเล่นสั่งเป็นหมูทอดกับ Mixed Fries size ใหญ่มา (จานใหญ่มากกกกกก) Fries อร่อยมากทุกแบบ ชอบรองลงมาจาก HOBS นิดเดียว ด้วยเหตุผลที่ว่า HOBS มี dip ให้เยอะกว่าล้วนๆ และที่นี่เป็นที่แรกที่ทำให้เรารู้สึกว่า Wedge อร่อย (ปกติไม่ค่อยชอบกิน Wedge เพราะมันหนาเกิน และไม่ค่อยกรอบ แต่ของที่นี่กรอบนอกนุ่มใน ไม่อมน้ำมัน)
17 Sept 2016
ตื่นมาสายๆ ลงไปลองอาหารเช้าของโรงแรมสักหน่อย อาหารที่นี่ไม่ได้เยอะมาก แต่คุณภาพดี อิ่มแน่นอน มี Gimmick เป็นโซนอาหารสไตล์ไทยๆซะด้วยนะ รสชาติโดยรวมก็โอเค ไม่หวือหวา กินกันแบบเบาๆก่อน รอบบ่ายมีนัดกินหนักกะออย
วันนี้มีโปรแกรมพาคุณนายเปิ้ลไปแก้บนกับหลวงพ่อทันใจที่วัดพระธาตุดอยคำ หลังจากที่ทริปก่อนมาบนเรื่องบ้านไว้ จนขายบ้านเก่าได้ และได้บ้านใหม่ถูกใจเป็นที่เรียบร้อย ระหว่างทางแวะซื้อพวงมาลัยคุณลุงข้างทางไปแก้บน ขายแค่พวงละ 8 บาทเองอ่ะ คุณนายจำไม่ได้ว่าบนไว้ 20 หรือ 50 พวง เลยซื้อมา 50 พวงก่อนเลยกันเหนียว พอขึ้นไปถึงวัดป้ายเค้าก็เขียนบอกว่าให้บน 50 พวงขึ้นไป คุณนายเลยถึงบางอ้อว่าตรูคงบนไว้ 50 พวงนี่แหล่ะ ^^”
เสร็จภาระกิจแล้วก็ไปต่ออาหารรอบบ่าย วันนี้นัดเพื่อนออยสุดเลิฟไว้ที่ร้านดัง โอ้กะจู๋สาขา Nim City ตรงแยกที่จะเลี้ยวไปสนามบิน อาหารที่นี่มาจานใหญ่มาก ถ้าเทียบปริมาณแล้วต้องบอกว่าถูกมากเลย ผักสดกรอบอร่อยทุกจาน ซี่โครงหมูนุ่มอร่อย และใหญ่มากกกกกกกกกกกกก size ใหญ่ 2 rack นี่แค่ 395 บาทเอง กินได้ 2-3 คน ไม่แปลกใจเลยว่าทำไมร้านนี้ถึงดังและคิวยาว เพราะทั้งอร่อยและไม่แพงนี่เอง

กินไปเม้าท์ไปพอประมาณก่อนที่จะแยกย้าย เพราะออยต้องไปสอน Zumba ต่อ ส่วนเราเห็นยังพอมีเวลาเลยขับพาเปิ้ลไปวัดบ้านเด่น ที่อยากไปสักหน่อย วัดนี้อยู่ที่ อ.แม่แตง ห่างจากตัวเมืองเชียงใหม่ไปราวๆ 40 กิโลฯ เราไม่เคยมีข้อมูลของวัดนี้มาก่อนนะ แต่พอไปถึงบอกได้เลยว่าวัดนี้ใหญ่สวยมาก เป็นสถาปัตยกรรมสไตล์ล้านนา เดินขึ้นไปให้ความรู้สึกเหมือนอยู่ในเมืองๆนึง คุ้มค่ากับการมาเยือนมาก (อ่อ วัดนี้มี Pokestop หลายเสา + มี Pokemon หายากให้จับเรื่อยๆเลย ระหว่างรอเปิ้ลชื่นชมวัด เราก็จับเพลิน  :mrgreen: )
ชื่นชมวัดได้พักใหญ่ๆจนเย็น ก็ขับรถกลับเข้าเมืองกัน มุ่งมั่นร้านกูโรตี ร้านโปรดตรงสาขานิมมานที่เดิม ตอนนี้ทางร้านมีสาขาอื่นๆในเชียงใหม่เปิดเพิ่มละ แต่เราก็ยังมาแต่สาขาเดิมเพราะพักย่านนี้ตลอด คราวนี้สั่งเป็น 4 in 1 เป็นโรตี 4 ชนิดไป พร้อมกับ มาม่าต้มยำ กับไมโลดิบ ซดด้วยชาร้อนฟรีจากทางร้าน บอกเลยฟิน&อิ่มมากกกกกกก
กินไป จับ Pokemon ไป ย่านนิมมานนี่มีเสาเยอะอยู่เหมือนกันนะ แต่ส่วนใหญ่จะอยู่บนถนนสายหลัก  ถ้าเข้าไปตามตรอกซอกซอยจะเริ่มไกลความเจริญละ นั่งอยู่ร้านกูพักใหญ่ๆจนคนเริ่มเข้าร้านเยอะ เลยออกจากร้านไปเดินเล่นแถว Maya ให้หายอิ่มอีกนิด ก่อนจะไปหาที่ไปต่อรอบค่ำ ตอนแรกคุยว่าอยากไปลองบรรยากาศวัยรุ่นที่ท่าช้างซะหน่อย อุตส่าห์ขับรถไปจนถึงที่ร้านตอนสองทุ่มกว่าๆ เห็นเด็กวัยรุ่นยืนรอคิวล้นออกมานอกร้าน แถมบรรยากาศดูแล้วน่าจะเลยวัยเราไปแระ เลยขับรถกลับมาตายรังที่นิมมานเหมือนเดิม สุดท้ายก็ไปลงเอยกันที่ร้านนึงที่ไม่รู้ชื่อร้านว่าอะไร แต่เป็นร้านที่เดินผ่านเมื่อคืนขากลับจาก Beer Republic เห็นเปิดเพลงดี บรรยากาศชิลๆ เลยเล็งไว้ นั่งจิบเบียร์ขวดขำๆฟังเพลงฆ่าเวลากรึ่มๆกันไป ก่อนกลับไปนอนยาว
จิบเบียร์ @นิมมาน 18 Sept 2016
วันนี้ตื่นมาบ่ายโมง สายโด่งเลย แต่ตอนซื้อ Voucher ทางรร.ให้ Late Check-Out ถึงบ่ายสี่โมงเลยไม่ต้องรีบอะไร แต่เพราะตื่นมาแล้วหิว เพราะงั้นเราก็ Check-Out กันเถอะนะ 555++ อาหารมื้อแรกตอนบ่ายสองกว่าๆของวันนี้เป็นร้านคั่วไก่นิมมาน อยู่นิมมานซ.17 ไม่ไกลจากรร. สามารถจอดรถได้ข้างทางหรือจะจอดรถที่ร้านบาร์ท่องโก๋ก็ได้ ร้านนี้อยู่ในลิสต์ที่จะมาลองนานแล้ว แต่มาเชียงใหม่ทีไรก็มัวแต่ไปลองร้านอื่นทุกที ครั้งนี้ตั้งใจเลยว่าจะมา เป็นอันว่าสำเร็จไปอีก 1 ภาระกิจ ส่วนรสชาติก็ธรรมดาๆทั่วไป ร้านมีเมนูหลายอย่าง ไม่ได้มีแค่คั่วไก่ ลองสั่งมาชิม 3 เมนู กลับกลายเป็นว่าประทับใจไข่เจียวคนเมือง มากกว่าคั่วไก่กระทะร้อนของขึ้นชื่อของร้านไปซะงั้น 555+
ที่ร้านคั่วไก่นิมมาน เราสั่งกันแบบรองท้อง เพราะกะจะไปนั่งเล่นรอเวลาขึ้นเครื่องที่ร้านกาแฟไปยาลใหญ่ ที่อยู่ห่างไปไม่ไกล ร้านนี้นั่งได้ชิลมาก เงียบๆคนไม่เยอะ มีหนังสือให้อ่านเพียบ พร้อมปลั๊กไฟสำหรับชาร์จแบต ส่วนเครื่องดื่มมีเยอะมาก ของกินเล่นและขนมมีพอประมาณ เรานั่งอยู่ที่นี่รอเวลาขึ้นเครื่องเกือบ 2 ชม.ก็สั่งหลายๆอย่างมาชิมรอเวลา รสชาติส่วนใหญ่ใช้ได้ แต่ไม่ถึงกับว้าว แต่ร้านนี้มีดีตรงความชิล เหมาะสำหรับมานั่งเล่น อ่านหนังสือ ทำงานมาก (ที่แอบแปลกใจอีกอย่างคือ French Fries อร่อย แฮะ)
นั่งเล่นจนได้เวลา ก็บึ่งรถไปสนามบิน ก่อนเข้า Gate แวะซื้อหมูยอจากร้านวนัสนันท์ ให้แม่หน่อย ที่ร้านนี้มีทั้งไส้อั่ว น้ำพริก และของฝากขึ้นชื่ออย่างอื่นๆอีกเพียบ ถ้าไม่คิดมาก มาซื้อเอาตรงนี้เลยก็สะดวกดี ไม่ต้องวิ่งไปตลาดด้วย
บริเวณที่นั่งรอคนเยอะแต่ก็ไม่แออัด ไม่นานก็ได้เวลาขึ้นเครื่องละ
สุดท้ายถึงดอนเมืองตอนสองทุ่มกว่าๆเป็นอันว่าจบทริปแก้บน & จับ Pokemon ที่เชียงใหม่ไปแบบประทับใจ ชอบทริปนี้ตรงที่ไม่มีโปรแกรมอัดมาก ได้เก็บร้านอาหารใน List พร้อมกับได้ up level pokemon หลังจาก stuck มาพักใหญ่ ส่วนเปิ้ลก็ได้ไปแก้บน กับได้ไปวัดบ้านใหม่แบบที่ตั้งใจ ครั้งต่อไปต้องเอาโปรแกรมหลวมๆแบบนี้เป็นบรรทัดฐานในการจัดทริปแล้วล่ะ ติดใจๆ ^^

Comments