Trip เชียงใหม่ 2014 #2 สั้นๆเน้นกิน (อีกแล้ว?!)
หลังจากเพิ่งไปเชียงใหม่มาได้แค่ 2 เดือนจากเมื่อตอนวันเกิด ก็ได้ฤกษ์ไปอีกที ครั้งนี้ไปพร้อมกับอ๊อป & นุ๊กด้วย แพลนไม่มี เน้นกิน ชิลล์ หาร้านถ่ายรูป แค่นั้น! เลือกไป-กลับวันที่ได้ราคาดีสุดตามเคย คือพฤหัส-เสาร์ที่ 18-20 กันยาฯ ครั้งนี้มาลงตัวที่ Nok Air มั่งละ สายการบินนี้ดีตรงที่มันรวม load กระเป๋าไปเรียบร้อยละ แถมบนเครื่องยังมี snack (ขนมที่ได้ทั้งขาไป-กลับเป็นของ Auntie Ann’s ซะด้วย) กะน้ำดื่มให้ด้วย ได้ใจไปก็ตรงนี้ ^^
ความลำบากในแต่ละครั้งที่ไปเชียงใหม่ หลักๆเลยมีอย่างเดียวคือ จะยัดร้านที่อยากกินลงไปในแพลน 3 วัน 2 คืนที่ไปได้ยังไงดี แบบว่าอยากกินเป็นสิบๆร้าน แต่เวลาและกระเพาะมีแค่นี้ ทริปนี้จะกินไปได้สักแค่ไหนเดี๋ยวมาดูกัน
18 Sept 2014
ไปถึงเชียงใหม่ช่วงเย็นๆ รับรถจาก Avis เจ้าประจำที่ถ้าจอง online จะได้เรทดีตลอด (800 บาท/วัน) แล้วก็ดิ่งไปหาไรกินก่อนกันก่อน ตกลงกันอยู่พักนึงว่าจะไปร้านไหนดี เพราะร้านที่อยากกินเยอะจัด สุดท้ายก็เลือกร้านเฮือนม่วนใจ๋ ร้านนี้เชฟมีดีกรีเชฟผู้ท้าชิงในรายการเชฟกระทะเหล็กประเทศไทยด้วยนะ ส่วนร้านก็จะสไตล์สวนๆต้นไม้เยอะๆหน่อย ไปถึงร้านฝนตกพรำๆ+ไฟดับ เลยได้กินข้าวใต้เสียงเทียน บรรยากาศโรแมนติกไปซะงั้น แต่อาหารร้านนี้รสชาติธรรมดาๆมาก ที่กินไปไม่มีอะไรโดนและโดดเด่นสักกะอย่าง ต๋องเต็มโต๊ะที่กินคราวที่แล้วอร่อยกว่าเยอะ 😕
กินกันเสร็จแบบไม่ค่อยประทับใจเท่าไหร่ ก็ออกจากร้านไปหากาแฟตบท้ายให้หายเซ็งดีกว่า กับร้าน Roastniyom ที่พลาดจากครั้งที่แล้วเพราะไปถึงแล้วร้านไม่มีที่นั่ง -_- ครั้งนี้ก็ไปสาขาเดิมที่อยู่ใต้หอพักคณะแพทย์ บนถนนศิริมังคลาจารย์ แต่คราวนี้ไม่แป้ก เพราะยังมีที่นั่งอยู่ เลยได้แก้มือซะที บรรยากาศร้านก็ถือว่าโอเคอยู่นะ ในร้านจะมีพวกนศ.มานั่งอ่านหนังสือกัน ถ้าจะมานั่งร้านนี้นานๆในวันทั่วๆไปคงไม่ชิลเท่าไหร่เพราะคนเยอะ นั่งแล้วอาจจะรู้สึกกดดันได้ ส่วนรสชาติกาแฟที่ลองชิมดูถือว่าใช้ได้ แต่ไม่ถึงกับแจ่มมากมาย ตัวมูสมะม่วงรสชาติดีเลยสำหรับคนที่ชอบทั้งมูสทั้งมะม่วง แต่เราว่ามันออกดูเละๆไปหน่อย เราชอบสไตล์เค้กมากกว่า
ออกจากร้านนี้ก็ไป check-in กัน ครั้งนี้ลอง Hug Nimman บ้าง มาแต่ละทีก็ลองเปลี่ยนโรงแรมไปเรื่อยๆ แต่ก็ยังเลือกอยู่แถบนิมมานต์เพราะร้านของกิน ที่เที่ยว ที่อยู่ใน List อยู่แถบนี้เกือบหมดเลยในระยะเดินได้ (แต่ก็ไม่ได้เดินกันนะ กะใช้รถให้คุ้ม 😆 ) ใต้โรงแรมมี Cafe อยู่ กาแฟร้านนี้อร่อยเลยนะ ลอง Ice Cappuccino ไปอร่อยกว่าหลายๆร้านที่เคยกินที่เชียงใหม่เลย แต่ความเด็ดของร้านนี้ยังมีอีกคือตอนกลางคืนจะขายเบียร์วุ้น! เห็นป้ายแล้วเล็งไว้เรียบร้อยว่าเดี๋ยวต้องมาโดนซะละ
ห้องที่ได้อยู่ชั้น 6 ขนาดห้องกว้างดี เตียงนอนไม่นุ่มจนเกินไป นอนได้โอเค แต่ไม่ถึงกับดูดวิญญาณ ทีวีติดผนัง ไม่มี dvd player มาให้ ส่วนช่องก็มีค่อนข้างน้อย (มาก) สรุปคือแทบไม่มีอะไรให้ดูเท่าไหร่ ดีตรงที่ทีวีมี usb port แต่ก็ช่วยอะไรไม่ได้ เพราะไม่ได้เอา hdd มา >_< สรุปคือไม่ดูไร…สรุปถ้าเข้าห้องแล้วก็นอนละกัน 🙄
กว่าจะออกมาจากโรงแรมอีกทีก็ 3 ทุ่มละ ไม่ได้ไปไหนไกล แค่ Warm-up ใกล้ๆนี่ แบบว่ามาเชียงใหม่กี่ทีก็ไม่เคยได้มา pub ชื่อดังสุดๆที่นี่สักที ทริปนี้เลยมีความตั้งใจจัดๆว่าต้องมาที่นี่ให้ได้! สาวร้านนี้ต้องบอกว่าหน้าไม่แจ่มแต่หุ่นเด็ดทุกคนจริงๆนะ สาวคนไหนจะมาที่นี่แนะนำให้แต่งองค์มาในระดับนึง ถ้าใส่เสื้อยืด ขาสั้น คีบแตะ มาล่ะก็ อาจจะรู้สึกหลุดโลกเล็กๆได้อยู่เหมือนกัน เดี๋ยวจะหาว่าไม่เตือน! 😆
ด้วยความที่ไม่หิวเลย ก็เลยสั่งแต่ของกินเล่นมาซะเยอะ เลยบอกรสชาติไม่ค่อยได้มาก แต่มาม่าผัดที่เป็นจานที่พอจะวัดได้อยู่จานเดียวนี่รสชาติโอเคเลยนะ แต่ไม่ประทับใจเบียร์ที่สั่งมาเพราะมาแบบไม่ค่อยเย็น ญ เปิ้ลกินไปแล้วหมดอารมณ์ ส่วนวงดนตรีที่ได้ฟังก็เฉยๆ เปิ้ลบอกว่าเป็นคู่ทอมที่เคยประกวดในรายการ The Voice? ฟังดูแล้วก็ธรรมดา ไม่เห็นประทับใจ แถมเล่นไม่กี่เพลงก็จบละ จะนั่งเล่นต่อไป บรรยากาศก็ไม่เห็นจะชิล ชอบที่ Monkey มากกว่าร้านนี้อ่ะ (หรือเพราะเราแก่?!?) สรุปก็คือนั่งร้านนี้ได้อยู่ชั่วโมงกว่าๆก็ไปดีกว่า
มาแก้มือกันที่ Hug Cafe Nimman เบียร์วุ้นใต้โรงแรมที่เล็งไว้ตั้งแต่แรก เบียร์วุ้นร้านนี้เด็ดจริง เพราะมาแบบแก้วแช่ และตัวเบียร์เย็นเจี๊ยบได้ใจจริงๆ ทุกขวดที่สั่งมาเพิ่มเทออกมาแล้วได้เป็นวุ้นทั้งหมด ทางร้านเปลี่ยนแก้วให้ตลอด ร้านนี้เป็นร้านเล็กๆ ไม่มีวงดนตรีอะไร แต่คนมานั่งกันเยอะอยู่เหมือนกันนะ บริการก็ดี ดูแลเอาใจใส่ตลอด สรุปเก็บร้านนี้ไว้ในลิสต์ร้านน่านั่งถ้าอยากจัดเบียร์เย็นๆไปละ
นั่งจิบเบียร์กันไปเรื่อยๆจนเที่ยงคืนกว่าๆก็ไม่ต้องเมาแล้วขับ ขึ้นลิฟต์ไปนอนได้เลย เพราะร้านอยู่ใต้โรงแรม
19 Sept 2014
วันนี้ตื่นกันมาแบบสายๆ ออกจากโรงแรมแล้วก็ไปจัดอีกร้านที่ตั้งใจมากินเลย (แบบว่าอยู่ปากซอยโรงแรม … แลดูตั้งใจจริงๆเนอะ 😆 ) ก็คือร้าน Salad Concept ร้านดังแห่งย่านนี้นี่เอง ที่ร้านนี่เดินจากโรงแรมไปได้เลย แต่เค้าก็มีที่จอดรถเป็นของตัวเองด้วยนะ หรือจะจอดริมถนนหน้าร้านก็ยังได้ ส่วนเมนูร้านนี้ก็จะมีทั้ง Steak, Salad, Pasta, ของหวานต่างๆรวมทั้งเครื่องดื่มแนวสมุนไพรนิดๆ (แบบแนวรักสุขภาพ) ลองสั่งมาดูสัก 2 เมนู เป็นสลัดมันฝรั่ง(น้ำสลัดเต้าหู้) กับ สลัด steak ปลาดอรี่ทอด เพราะรู้มาว่าสลัดร้านนี้มาแบบเป็นกาละมัง 555++ แล้วก็จริงด้วย สลัดมาชามใหญ่มาก กินนานเลยกว่าจะหมด ส่วนปลาทอดรสชาติธรรมดาๆ เอาโดยรวมแล้วเราชอบร้าน Salad Factory แถวเมืองทองในกทม.มากกว่าเยอะนะ แต่ครั้งหน้าว่าจะมาลอง Salad Terrace ที่เพื่อนออยโฆษณาไว้นักหนาดูบ้าง ^^
ออกจาก Salad Concept ก็ขอตบของหวานหน่อยที่ร้านสุดเลิฟ กูโรตี นั่นเอง จัดเมนูโปรดมาเลย โรตีข้าวโพด กับโรตีทิชชู่นม เอาจริงๆแล้วเราไม่ค่อยชอบโรตีทิชชู่นะ แป้งบางกรอบเกิน ชอบสไตล์แป้งนิ่มๆหน่อยมากกว่าล่ะ ชอบตรงที่ร้านเค้าจะให้ชามาเป็นกาเลยแบบฟรีๆไม่ต้องสั่ง แถมรสชาติดีมาก กินกับโรตีแก้เลี่ยนได้ดีสุดๆ
กินอิ่มพุงกางก็บ่ายกว่าๆแล้ว วันนี้จริงๆมีแพลนว่าจะไปสวนสัตว์เชียงใหม่ที่อยู่ตรงทางขึ้นไปวัดพระธาตุดอยสุเทพฯ ก็เลยตกลงกันว่างั้นขึ้นไปไหว้พระธาตุกันก่อนเลยดีกว่า ขากลับค่อยแวะสวนสัตว์ ไปถึงฝนยังตกอยู่ปรอยๆ เราก็เลยไปจอดรถแปะกันตรงบันไดทางขึ้นจะได้วิ่งไปขึ้นกระเช้าได้แบบเร็วๆ วันนี้เลยได้มาสัมผัสบรรยากาศที่วัดตอนฝนปรอยๆ เวลาเดินเท้าเปล่าที่พื้นมีน้ำฝนเย็นๆ ก็รู้สึกสดชื่นดีเหมือนกันนะ (ถ้าไม่กลัวว่าจะเป็นหวัดล่ะก็นะ)
ออกจากวัดลงมาถึงสวนสัตว์ก็บ่ายสามกว่าๆเกือบสี่โมง เจ้าหน้าที่บอกว่าไม่ทันละ ให้มาใหม่พรุ่งนี้! เวรกรรม แผนเสีย แถมซื้อ deal เข้าสวนสัตว์มาแล้วด้วย ยังไงก็ต้องมาจัด … เลยกลายเป็นว่าต้องมาใหม่พรุ่งนี้ก่อนไปขึ้นเครื่องตอนบ่าย -_- พอแป้กจากแพลนนี้เลยมองตากันแบบว่า แล้วจะไปไหนดีเนี่ยะ … สุดท้ายเลยขับรถไปร้านบ้านสวนกาแฟ ร้านกาแฟบรรยากาศในสวนที่อยู่แถวๆวัดพระธาตุดอยคำ ลองสั่งมาไม่กี่อย่างรสชาติอาหารคือทั่วไป แต่เค้กกับกาแฟถือว่าอร่อยนะ กาแฟไม่เข้มไม่อ่อนจนเกินไป รสชาติมาแบบกำลังดีเลย ชอบอ่ะ ส่วนบรรยากาศคงไม่ต้องพูดถึง มานั่งเล่นเอื่อยๆอ่านหนังสือหรือเดินถ่ายรูปได้ชิลกันไป
ร้านนี้ปิดราวๆห้าโมงเย็น พอสี่โมงกว่าๆพนักงานก็เริ่มๆเก็บร้านกันแล้ว พวกเราเลยออกจากร้านไปต่อกันที่วัดพระธาตุดอยคำ เพราะอยู่ใกล้ๆกันเลย วัดนี้เคยมาเมื่อหลายปีที่แล้ว ตอนนั้นยังก่อสร้างอยู่ มาครั้งนี้ดูดีขึ้นกว่าเดิมเยอะเลย เห็นคนมาขอพรหลวงพ่อทันใจ เลยขอบ้างสิ แต่ขอเผื่อท่านแม่นะ ไม่ได้ขอให้ตัวเอง (ลูกที่ดีเนอะ ^^)
ออกจากวัดก็หมดแผนละ เลยไปเดินเล่นกันที่ Maya & Central จนเกือบสามทุ่ม แล้วค่อยไปกินข้าวกันที่ Monkey แบบว่าติดใจวงดนตรีที่ฟังครั้งที่แล้ว แต่มาครั้งนี้ไม่เจอ แถมวงที่เล่นวันนี้ก็ไม่โดนอีกตะหาก … พอแป้กจาก Monkey สุดท้ายเลยไปแก้มือด้วยเบียร์วุ้นใต้โรงแรมแทน เพราะคอเบียร์ก็ประทับใจเบียร์วุ้น ส่วนเราประทับใจข้าวเกรียบ แบบว่าให้มาทีจานเบ้อเร่อ อร่อยด้วย จัดไปประมาณนึงก็ขึ้นห้องนอนหลับได้ สบายพุง
20 Sept 2014
ปกติมาเที่ยวนี่ไม่ค่อยจะตื่นเช้ากันหรอก แต่พอดีวันนี้ต้องไปสวนสัตว์แต่เช้าเพราะเมื่อวานไปไม่ทัน วันนี้เลย check out ตั้งแต่ 9 โมงกว่าๆ เป็นประวัติการณ์มาก ออกจากโรงแรมขอไปลองร้านโจ๊กต้นพยอม ซะหน่อย ครั้งก่อนๆมัวแต่ไปลองโจ๊กสมเพชร รสชาติงั้นๆแหล่ะ โจ๊กร้านนี้อร่อยกว่ามากจริงๆ มีปาท่องโก๋จิ้มสังขยามาให้ด้วย เอาไปใส่กินพร้อมโจ๊กก็อร่อย หรือจะกินตบท้ายเป็นของหวานก็แจ่มไม่แพ้กัน สรุปว่าติดใจโจ๊กร้านนี้ไปซะละ แต่ยังไม่เคยลองโจ๊กศรีพิงค์ที่อยู่ข้างๆกัน ไว้คราวหน้าต้องมาลองดูบ้าง
กินอิ่มเรียบร้อยก็ไปสวนสัตว์เชียงใหม่กันได้สักที พวกเราขับรถมาก็สามารถขับเข้าไปได้เลย ที่หมายแรกเป็น Aquarium ที่ครั้งก่อนๆมาไม่ได้เข้า แต่ขอบอกว่ามันไม่ค่อยจะมีอะไรเลยอ่ะ ไม่น่าตื่นตาตื่นใจ แถมอุโมงใต้น้ำก็กำลังซ่อมอยู่ส่วนนึง เซ็งจิต
ออกจาก Aquarium ก็ขับรถแวะไปดูจุดอื่นๆก็ไม่ค่อยมีสัตว์อะไรน่าสนใจอีกนั่นแหล่ะ เลยตั้งใจว่าจะไปดูเพนกวิน ไปถึงก็ปิดปรับปรุงอีกแระ พอจะไปดูแพนด้าก็มีแต่เจ้าช่วงช่วง เพราะหลินฮุ่ยตรวจสุขภาพอยู่ ส่วนหลินปิงถูกส่งกลับไปแล้ว >_< สรุปว่าการมาสวนสัตว์ครั้งนี้ไม่ได้มีอะไรน่าดูให้ประทับใจเลยจริงๆ ถือว่ามาฆ่าเวลาละกัน -_-
ออกจากสวนสัตว์ยังพอมีเวลาก่อนที่จะส่งอ๊อปกะนุ๊กขึ้นเครื่อง เราเลยไปที่ร้าน Café de Oasis ซะเลย ได้ข่าวว่าเป็นร้านกาแฟชิลๆอีกร้านเหมาะกับการถ่ายรูป ร้านนี้จะอยู่เส้นแม่ริม ตัวร้านเป็นเหมือนบ้านสไตล์ไทยๆหน่อย นั่งเล่นได้ชิลๆจริงๆแหล่ะ แต่อาหาร ขนม กาแฟ ทุกอย่างรสชาติทั่วไปไม่โดดเด่นอะไร
นั่งเล่นจนได้เวลาอ๊อปกะนุ๊กไปขึ้นเครื่อง ออกจากร้านมาเจอรถติดยาว ลุ้นแทบแย่ว่าจะไปส่ง 2 สาวทันเวลาโหลดกระเป๋าหรือเปล่า แต่สุดท้ายก็พอดีฉิวเฉียด ส่ง 2 สาวเสร็จ เรายังมีภาระกิจไปกินต่อ กับร้านที่ตั้งใจมากินอีกร้าน … Rock Me Burger & Bar นั่นเอง! ร้านนี้อยู่บนถนนลอยเคราะห์ ขับเลยร้านไปนิดจะมีซอยขวามือเข้าไปจอดรถได้เลย ดูเมนูเสร็จสั่ง Rocking On Heaven มาคนละชุด แบบเนื้อ 1, หมู 1 นั่งรออาหารพักใหญ่ๆ (ราว 15 นาที) Burger แบบอลังการก็มาอยู่ตรงหน้า แบบว่าร้านนี้ presentation ได้สวยเหมาะกับการถ่ายรูปมากๆ ทำให้คนถ่ายเกิดความภาคภูมิใจว่าเรานี่ฝีมือถ่ายรูปเจ๋งหว่ะ แต่จริงๆมันเป็นเพราะเค้าจัดมาสวยอยู่แล้วน่ะแหล่ะ … ส่วนรสชาติคงไม่ต้องพูดถึง … ไร้คำบรรยาย กินแล้วแทบลอย! เห็นขนาดใหญ่ขนาดนี้นะ กินหมดยังอยากจะสั่งต่อ แบบว่าอร่อยจริงอร่อยจัง ถ้ามาครั้งหน้าจะต้องมาจัดอีกแน่ๆอ่ะ
ออกจากร้านนี้ฝนยังตกพรำๆอยู่ ตอนแรกว่าจะไปหาวัดใกล้ๆทำบุญเพราะยังเหลือเวลา แต่ฝนตกแบบนี้เลยเบนเข็ม ไปหาของกินต่อดีกว่า (ยังจะกินไหวได้งัย ยังงงตัวเองอยู่) กับอีกร้านที่คาใจอยู่ในลิสต์ — The Volcano
ร้านนี้เห็นอยู่ในอันดับต้นๆของรีวิวในเชียงใหม่ ดูจากในรีวิวตัว Japanese Toast น่ากินมาก แต่พอมาลองกินดูจริงๆแล้วเฉยๆนะ ห่างไกล After You มาก ตัวขนมปังแน่นเกินไป กินแบบเอาอิ่มได้แบบจริงจัง แต่เราชอบแบบกรอบนอกนุ่มในตัวขนมปังต้องเบาๆกว่านี้ สรุปว่าร้านนี้มาลองครั้งนึงก็พอแระ อยากกิน Toast ก็กินอยู่ในกทม.ดีกว่านะ ^^”
นั่งกินอยู่สักพักก็ได้เวลากลิ้งกันออกมาจากร้านเพื่อไป check-in ที่สนามบินได้สักที ทริปนี้เป็นการกินที่อัดแน่นมากเหมือนเดิม 555++ ไปถึงสนามบินกันแบบตรงเวลาเป๊ะๆ นั่งรอแป๊บเดียวก็ได้ขึ้นเครื่องแระ มากับ Nok Air ครั้งนี้ก็ประทับใจใช้ได้ ไม่มีดีเลย์ มี snack & น้ำดื่มให้พอให้ชื่นใจเล็กๆ โหลดกระเป๋าได้ด้วย ยิ่งมากับโปรฯแบบนี้ด้วยยิ่งแจ่ม โดนใจจริงๆ พอกลับถึงกทม.ยังติดใจไม่หาย เตรียมคิดต่อเลยทันทีว่าจะมาเชียงใหม่อีกทีเมื่อไหร่ แต่พอไปดูแผนเที่ยว vs ตารางงานแล้ว อัดกันแน่นทั้งปี T-T แต่เดี๋ยวถ้าหาเวลาสอดแทรกได้เมื่อไหร่ต้องบินมากินคลายเครียดอีกแน่นอน! 😆
Leave a Reply