Trip ก่อนเปลี่ยนงานใหม่: จันทบุรี-เกาะช้าง Revisit #2 [22-26 Feb 2014]

สืบเนื่องจาก post ที่แล้ว ว่าเรากำลังจะเปลี่ยนงานใหม่ เลยมีวันหยุดก่อนเปลี่ยนงานประมาณ 10 วัน ตั้งแต่ 21 Feb – 2 Mar 2014 เลยต้องหาเรื่องไปเที่ยวซะหน่อย (จริงๆอยากหยุดสักเดือนนะ 10 วันนี่ผ่านไปเร็วมาก )  ก่อนหน้านี้เลยคุยกับเปิ้ลว่าจะไปไหนดี อยากแบบพักผ่อน ชิลๆ ตั้งเป้าว่าทะเลก่อนเลย เพราะปีที่แล้ว (2013) เราแทบไม่ได้เที่ยวทะเลสวยๆกันเลย (มีก็ไปแต่พัทยา … ไม่นับเป็นทริปทะเลได้แมะ ^^”)  สุดท้ายหาไปหามาเลยมาลงตัวที่เกาะช้าง ด้วยเหตุผลหลักคือไม่ไกลมาก ขับรถไปเองได้ และจริงๆมีอีกอย่างคือครั้งที่แล้วขับน้อง Citroen C3 ไป แล้วขับไปไม่ถึงท้ายเกาะ เพราะรถมันแรงไม่ไหว เจ็บใจจนถึงวันนี้ เลยต้องพาน้อง Jazz ที่มี body ขนาดใกล้เคียงกันไปแก้มือซะหน่อย ดูสิว่าคราวนี้จะรอดมั๊ย

22 Feb 2014

ทริปนี้ออกเดินทางจากกรุงเทพประมาณบ่าย เพราะช่วงเช้าเราต้องแวะไปงานแต่งงานของไอ้ปอนด์ก่อน มันจองคิวไว้ข้ามปีจะเบี้ยวเดี๋ยวโดนเพื่อนๆรุมด่า แถมไอ้ออยก็บินลงมาจากเชียงใหม่อีกตะหาก เลยเลื่อนเวลาเดินทางเป็นตอนบ่ายแทนก็ได้ เสร็จจากงานแต่งประมาณเที่ยงๆ จากกทม.เราขับรถเอื่อยๆประมาณ 3-4 ชม. ก็ไปถึงตัวเมืองจันทบุรี มื้อแรกนี่อยากกินหมูชะมวง หาข้อมูลมาละว่าต้องร้านนี้เลย จันทรโภชนา แล้วก็ไม่ผิดหวังนะ อร่อยทุกอย่างจริงๆด้วย ทั้งหมูชะมวง, แกงหมูขิงแห้ง, ไข่เจียว, เส้นจันทร์ผัดปู มาคราวหน้าคงต้องกลับมาทานอีกแน่ๆ

กินเสร็จอิ่มมาก เลยแวะไปเช็คอินเข้าโรงแรมก่อนเลยดีกว่า ครั้งนี้เราพักที่โรงแรม Inn-Chan อยู่ในตัวเมืองจันทบุรีเลย หาข้อมูลมาจาก Blog ของคุณ prettyguide ก่อนไปโทรจองได้ราคาคืนละ 800 บาท รวมอาหารเช้า (แต่ไม่ได้ตื่นมากินตามเคย ^^”) พอเช็คอินเสร็จก็ขอไปเดินย่อยที่ถนนคนเดินซะหน่อย จากโรงแรมเดินไปแค่นิดเดียวเอง มีของกินเยอะมาก นี่ถ้าไม่ได้กินจริงจังมาแล้วคงได้เดินชิมไปเรื่อยๆจนอิ่มแน่ๆ เดินเล่นกันจนรำคาญพวกแมลงที่ค่อนข้างเยอะแล้วก็กลับโรงแรมนอนดีกว่า

23 Feb 2014

ตอนเช้าตื่นแบบชิลๆไม่รีบ ญ เปิ้ลมีความมุ่งมั่นอยากกินก๋วยเตี๋ยวหมูเลียงให้ได้ เลยไปกันที่ร้านก๋วยเตี๋ยวหมูเลียงพระยาตรัง ร้านนี้อร่อยเลยแหล่ะ แถมเราติดใจกาแฟสดร้านนี้อย่างแรง กินแล้วรสชาติมันพอดีเลย คราวหน้าต้องกลับมาร้านนี้อีกให้ได้

กินเสร็จยังพอมีเวลา เราเลยขับรถไปถ่ายรูปที่โบสถ์วัดแม่พระปฏิสนธินิรมล ตัวโบสถ์สวยมาก ด้านในก็ดูสงบเงียบ ผู้หญิงต้องแต่งกายสุภาพถึงจะเข้าไปภายในโบสถ์ได้นะ

ออกจากโบสถ์เราก็ขับมุ่งหน้าท่าเรือเลย จากจันทบุรีก็ขับไปราวๆชั่วโมงนึงได้ จ่ายค่าข้ามเกาะไป 280 (รถ + 2 คน) โชคดีไปถึงเรือกำลังจะออกพอดีเลยไม่ต้องรอ จอดรถบนเรือเสร็จก็ขึ้นไปถ่ายรูปเล่นกัน ราวๆ30-40นาทีก็ถึงเกาะแล้ว

ข้ามเกาะไปถึงเป็น challenge ของเราละ ว่าน้อง Jazz จะขับไปถึงท้ายเกาะได้มั๊ย เพราะเราตั้งใจกันว่าจะขับไปที่บางเบ้ากันวันนี้เพื่อจะดูโปรแกรมทัวร์เกาะ พร้อมกับทานข้าวเย็นไปเลย และผลก็คือ … น้อง Jazz ขับผ่านสบายๆอย่างหล่อๆเลย ไม่มีหอบแฮ่กๆให้ลุ้นด้วยซ้ำ เก่งมากไอ้ลูกพ่อ 

จอดรถเสร็จก็ลองถามๆโปรแกรมทัวร์ทั้งของศรัทธาทัวร์กับอิทธิพลทัวร์แล้วก็ราคาพอๆกัน แต่ติดตรงที่มีเค้าว่าอาจจะมีฝนตกในวันถัดไปได้ และลูกทัวร์ยังไม่จองเต็ม อาจจะมีการเอาเราไปรวมกับทัวร์อื่นได้ เลยยังไม่จองดีกว่า เพราะเราเองก็อาจจะขี้เกียจไม่อยากไปด้วย 555++ เพราะงั้นเลยดิ่งไปกินข้าวเย็นดีกว่า ที่ร้านเรือนไทยซีฟู๊ด ประทับใจความใหญ่ของกุ้ง แต่รสชาติก็ปกติหากินได้แถวกทม. เรากลับประทับใจเนื้อปูผัดผงกะหรี่มากกว่า เพราะว่าได้เนื้อปูเต็มๆ กินให้หายอยากกันไปเลย ส่วนหอยจ้อและกุ้งอบวุ้นเส้นก็อร่อยได้มาตรฐาน สรุปว่าร้านนี้สำหรับเราเราว่าอร่อยใช้ได้เลยนะ แต่ที่เคยอ่านบางรีวิวมา บางคนก็ชอบ บางคนก็ไม่ชอบ สุดท้ายมันก็แล้วแต่อาหารที่สั่ง + ความชอบในรสชาติของแต่ละคนด้วยแหล่ะ

กินเสร็จก็ออกไปเดินเล่นตรงท่าเรือกันซะหน่อย ถ้าใครซื้อทัวร์เกาะ ก็จะต้องมาขึ้นเรือกันที่นี่ เลยได้โอกาสสำรวจเรือของทั้งศรัทธากับอิทธิพลทัวร์ที่จอดอยู่พอดี มองๆแล้วชอบของอิทธิพลมากกว่าเพราะดูโปร่งกว่า

เดินเล่นย่อยอาหารเสร็จแว้บนึงก็ขับรถกลับโรงแรมกันเพราะเดี๋ยวจะเย็นซะก่อน โรงแรมบนเกาะช้างที่เราเลือกครั้งนี้คือ Mercure Koh Chang Hideaway เราจองห้องแบบ Deluxe Oceanview เอาไว้ 3 คืน 9,xxx โดยตอนที่จองก็ใส่รหัส Le club Accor เข้าไปด้วย ไม่รู้เกี่ยวกันมั๊ยแต่ตอนที่เช็คอินทางเจ้าหน้าที่ก็ upgrade ห้องให้เฉยเลย เป็นห้อง Beach Front มี Pool ด้านหน้าด้วย แถม Type นี้มีแค่ 2 ห้องในโรงแรม ไม่มีประกาศขายตามหน้าเวบ! โชคดีอย่างแรง ^^ เราว่าสมัครสมาชิก Le club accor ไว้นี่ก็ไม่เสียหลายนะ เพราะว่ามันสมัครฟรี แล้วหลังจากนั้นก็จะเป็นการสะสมแต้มเอาเรื่อยๆเพื่อเลื่อน level ครั้งที่แล้วตอนไปฮ่องกงครั้งที่แล้วก็จอง Novotel Nathan ที่เป็นเครือของ Accor เหมือนกัน ก็ใส่รหัสนี้ไปด้วย ตอน check-in เค้าก็ให้เลือกเลยว่าจะรับสิทธิพิเศษอะไรดีระหว่าง late check-out, free drinks ครั้งนี้ก็เลยคิดว่าการได้ upgrade ห้องก็น่าจะมีผลจาก Le club member นี้ด้วยเหมือนกัน

ห้องที่ได้ไม่ได้ใหญ่มาก แต่ romantic ใช้ได้เลย เตียงมีมุ้งสร้างบรรยากาศได้ดี เตียงหันหน้าออกทะเล ตอนเช้าๆก็สามารถเปิดม่านรับแสงไปดูทะเลไปได้ด้วย เดินออกจากประตูปลายเตียงก็จะเป็น private pool ขนาดกำลังดี สามารถเปิดเป็น jacuzzi ได้ด้วย ช่วงบ่ายแก่ๆมาแช่น้ำไปด้วย จิบเบียร์เย็นๆไปด้วยจะชิลมาก (แต่หลังพระอาทิตย์ตกไม่แนะนำให้นั่งด้านนอก เพราะยุงที่นี่กัดโหดมาก!)  ภายในห้องนอนมี wine cooler, ตู้เย็น, กาน้ำร้อน + กาแฟ/ชาไว้ให้ตามมาตรฐาน ส่วนตัวห้องน้ำใหญ่มาก เป็นห้องนอนอีกห้องได้เลย และ packaging ของใช้ในห้องน้ำก็ทำมาได้ดูดีสมราคาเลยแหล่ะ สรุปว่าสำหรับตัวห้องแล้วประทับใจมาก

24 Feb 2014

วันนี้ไม่มีอะไรมาก ตื่นมาก็สายๆมากละ อยากกินอะไรบ้านๆเลยไปตระเวณขับรถหาอาหารตามสั่งง่ายๆดู เจอร้านหน้าตาดีเลยลองสักหน่อย สุดท้ายก็รสชาติฝรั่งๆหน่อยๆ เลยไม่ได้ประทับใจอะไรเท่าไหร่ กินเสร็จก็ไปถ่ายรูปกันที่จุดชมวิวอีกสักที อากาศร้อนแดดแรงมั่กๆ แต่ก็ไม่ยั่นนะ ^^

ถ่ายรูปเล่นกันเสร็จแล้วก็ไปเดินย่อยต่อที่น้ำตกคลองพลู  จากที่จอดรถต้องเดินเท้าเข้าไปที่ตัวน้ำตกราวๆ 500 เมตร แต่ทางที่เดินก็ลำบากหน่อยๆ คือมันไม่ได้เป็นทางเดินเรียบๆไปตลอดทาง ต้องมีปีนป่ายบ้างไรบ้าง ดีที่มาหน้านี้ไม่เฉอะแฉะ ถ้ามาหน้าฝนคงเดินยากมากเหมือนกัน เพราะทางเดินยากแบบนี้กว่าจะไปถึงตัวน้ำตก อาหารที่กินมาก็ย่อยไปเยอะละ แถมได้เหงื่อพอๆกับไปเล่นฟิตเนสเลย แต่พอเข้ามาถึงตัวน้ำตกแล้วก็หายเหนื่อย น้ำตกที่นี่สูงใช้ได้ มีน้ำให้ว่ายเล่นได้แบบจริงจัง ไม่ใช่แบบตื้นๆหรือแล้งๆแบบหลายๆน้ำตกที่ไปมา พวกฝรั่งมาว่ายน้ำเล่นกันเยอะ (และส่วนใหญ่ก็เป็นฝรั่ง)

ออกจากน้ำตก เดินทางเดิมกลับมาที่จอดรถ แวะพักกินน้ำกินไอติมให้หายร้อนกันแถวลานจอดรถก่อนที่จะไปทำบุญต่อกันที่วัดคลองพร้าว ตั้งใจแต่แรกไว้อยู่แล้วว่าจะมาทำบุญกันที่วัดบนเกาะ ของที่ซื้อมาทำบุญก็ซื้อจากร้านขายของแถวหน้าวัดเลย วัดนี้มาแล้วได้ทำบุญหลายอย่างเลยแฮะ ทั้งถวายสังฆทาน ปิดลูกนิมิตร ทำบุญโลงศพ ซื้อกระเบื้อง ฯลฯ ดีจัง มาที่เดียวได้ทำครบเลย ^^

ทำบุญกันเสร็จสบายใจเกิดอยากกินโรตี เลยแวะที่จุดชมวิวอีกรอบเพราะจำได้ว่ามีร้านขายโรตีอยู่ สั่งเป็นโรตีไข่-มะพร้าวมากิน อร่อยใช้ได้แต่ยังสู้โรตีหาดจอมเทียนพัทยาไม่ได้ พอแก้อยากได้น่า ^^

หลังจากนั้นก็กลับโรงแรมไปว่ายน้ำ สระว่ายน้ำของโรงแรมเป็น signature ของที่นี่เลย ว่ายไปดูวิวทะเลไป ยิ่งตอนเย็นๆที่พระอาทิตย์กำลังจะตกนี่สวยมาก พวกฝรั่งชอบมานอนอาบแดดกัน ชิลสุดๆ

ว่ายน้ำจนพอใจแล้วก็คุยกันว่าคืนนี้ room service ละกัน ขี้เกียจออกแล้ว ดูๆเมนูแล้วก็สั่งได้อาหารมาเป็น pizza, calamari & onion ring มากินผสมกับของขบเคี้ยวและเครื่องดื่มทั้งหลายที่ตุนมาแบบเหมือนจะมาอยู่สักอาทิตย์ 555 กินไป จิบเบียร์ไป ดู series ไป relax มากกกกกก XD

25 Feb 2014

สุดท้ายพวกเราก็แพ้ความขี้เกียจจนได้ สรุปคือไม่ได้ซื้อทัวร์ไปเกาะไหนเลย เพราะไม่อยากตื่นเช้าแล้วไปเสียเวลาตระเวณตามเกาะต่างๆทั้งวัน เลยตกลงกันว่างั้นพายเรือคายัคไปเกาะมันในเองเลยแล้วกัน แบบว่าให้ได้ชื่อว่าไปไหนสักเกาะนึงเหอะนะ เพราะเกาะมันในนี่มันใกล้กับเกาะช้างมาก แบบพายเรือไปได้เลย ตกลงกันได้แล้วก็ออกไปหาข้าวกลางวันกินกันก่อน วันนี้ขอเลือกร้านที่ดูบ้านๆมากๆแบบว่าอยากกินพวกอาหารตามสั่งอร่อยๆแก้มือเมื่อวานซะหน่อย ขับรถเจอร้านเล็กๆร้านนึงเลยลองดู ปรากฏว่าอร่อยกว่าร้านใหญ่ๆที่ดูดีเยอะ! ก็เลยอิ่มเอมกันไปอีกมื้อ จบอาหารคาวก็ขอตบของหวานสักนิดกับร้าน Marin Coffee พอดีเห็นมันขึ้นใน FourSquare’s Best Near by เลยขอแวะซะหน่อยเหอะ สั่งไอติมกะแพนเค้กมากิน ไอติมโอเคเลย ส่วนแพนเค้กรสชาติธรรมดามั่กๆๆๆ -_-!

อิ่มกันแล้วทีนี้ก็ได้เวลาพายเรือไปเกาะมันในกันละ เราขับตระเวณดู location เช่าเรือที่ดูจะใกล้เกาะมันในที่สุด แล้วก็ได้คำแนะนำมาจากคนแถวนั้นว่าให้ไปที่ Seaview Resort & Spa ที่อยู่หาดไก่แบ้ ทางเข้าโรงแรมจะอยู่ก่อนถึงจุดชมวิวนิดเดียว หาไม่ยากเลย เราเช่าเรือคายัคจาก resort ที่อยู่ติดๆกันกับที่ seaview นี่แหล่ะ (อาศัยจอดรถใน seaview resort) เค้าคิดชม.ละร้อย หรือจะเหมาไปเลย 200 นานแค่ไหนก็ได้ เลยเหมาไปเลย เพราะไม่รู้จะใช้เวลานานแค่ไหนเหมือนกัน 555 แต่ดูๆแล้วเกาะมันในที่อยู่ตรงหน้าเราก็ไม่ไกลจากฝั่งนะ แถมพอตอนจะพายจริง เราสามารถเดินในน้ำดันเรือไปเรื่อยๆได้ไกลพอดูเลย เพราะจริงๆแล้วถ้าช่วงน้ำลด มันจะเกิดทะเลแหวก เราจะสามารถเดินไปที่เกาะจากชายฝั่งได้เลยด้วยซ้ำไป เพราะงั้นเลยใช้เวลาแค่ราวๆ 15-20 นาทีก็ถึงเกาะมันในกันแล้ว น้ำทะเลระหว่างที่เราพายเรือมาใสน่าเล่นมากๆ สุดท้ายตอนเอาเรือคายัคไปคืนเค้าเรียบร้อย เราเลยมาเล่นน้ำทะเลกันที่หาดนี้แหล่ะ ชิล & เพลินมากๆ ชอบจุงเบย ^^

เล่นเสร็จนู๋เปิ้ลหมดแรง วันนี้เลยกินอาหารกันที่โรงแรม (room service) เหมือนเดิมละกัน วันนี้ก็ขอจัด pizza อีกสักที ส่วนนู๋เปิ้ลขอเป็นราดหน้าก็บอกว่าอร่อยเลยนะ … กินอาหารคาวเสร็จก็ต่อด้วยขนมคบเคี้ยวทั้งหลายแหล่ และ series เหมือนเดิม กำลังติด Good Doctor อยู่ ดูยาวถึงเกือบตี 3 เลยแหล่ะ ^^”

26 Feb 2014

นี่วันนี้เราต้องกลับกันแล้วเหรอเนี่ยะ! วันหยุดมันช่างผ่านไปเร็วจริงๆ อยากจะหยุดจนรู้สึกเบื่อบ้างอ่ะ ตั้งแต่เริ่มทำงานนี่ไม่เคยได้หยุดจนมีความรู้สึกแบบนั้นเลยนะ >_< พวกเราเก็บของเช็คเอ้าท์กันตอนเที่ยงกว่าๆ ก่อนจะไปกินข้าวเที่ยงนู๋เปิ้ลก็ขอให้แวะไปบางเบ้าก่อน เพราะคาใจอยากชิมร้าน waffle ตรงบางเบ้าตั้งแต่วันแรกที่มาถึง แต่พอดีวันนั้นกินกันจนอิ่มมากไม่เหลือท้องจะใส่แล้วเลยแปะเอาไว้ก่อน และก็ไม่ผิดหวังที่อุตส่าห์แวะกลับมาซื้อนะ เพราะอร่อยเลยแหล่ะ คราวหน้ามาจะมากินอีก (ถ้าร้านมันยังอยู่นะ) … เสร็จแล้วเราก็ขึ้นรถไปร้าน “เจ๊อิ๋วซีฟู๊ด” ร้านดังในเนทอีกร้าน สั่งกุ้งทอดซอสมะขาม, กรรเชียงปูชุบแป้งทอด, ปลากะพงนึ่งมะนาว, ทะเลผัดไข่เค็ม … อยากบอกว่าเราเฉยๆกับอาหารทุกอย่างที่สั่งมาเลยอ่ะ คือไม่ใช่ไม่อร่อย แต่ขนาดที่ได้อย่างกุ้งก็มาเป็นตัวเล็กๆ กรรเชียงปูก็เนื้อน้อยไปนะ >_< ชอบร้านเรือนไทยมากกว่า วัตถุดิบที่มามันมีเนื้อมีหนังกินได้เต็มๆคำมากกว่ามากน่ะ

ออกจากร้านก็ตรงไปที่ท่าเรือเฟอรี่เลย รอเรือประมาณ 15 นาทีก็ได้ขึ้นละ หลังจากขึ้นฝั่งก็ยิงยาวถึงกทม.กันเลย ใช้เวลาประมาณ 4 ชม. เพราะเส้นนี้มีไฟแดงหลายที่เหมือนกัน ไม่งั้นคงใช้เวลาน้อยกว่านี้ แต่ทางก็ขับง่ายนะ ถือเป็นอีกทางเลือกนึงถ้าเบื่อพัทยาหรือเวลาอยากเล่นน้ำใสๆแต่ไม่อยากไปถึงกระบี่ ภูเก็ต แถบโน้นอ่ะ เพราะที่นี่เอารถมาได้เอง จะขนอะไรก็ขนมาเลย 555++

สรุปว่าทริปนี้ก็เป็นทริปชิลที่ประทับใจอีกทริปนึงเลย ถามว่าถ้าให้กลับมาอีกจะมามั๊ย ตอบได้ไม่ต้องคิดเลยว่ามาแน่นอน ครั้งหน้าเล็ง Seaview Resort & Spa ไว้แล้ว เพราะพักที่นั่น ชายหาดน้ำใสน่าเล่นมากๆ แถมพายคายักเล่นไปเกาะใกล้ๆได้สบายเลย ครั้งหน้าเจอกัน 3 วัน 2 คืนก็เอาวะ 555++