Wongnai Tasting at ติ่น ไท่ ฟง 鼎泰豐 Din Tai Fung, Central Embassy
ได้รับคำเชิญจากทาง Wongnai ให้ไปร่วมทานอาหารที่ Din Tai Fung สาขา Central Embassy โดยที่งานนี้จะได้ลองเมนูมงคลต้อนรับตรุษจีน “หยือเซิง” กันด้วย โดยร้าน Din Tai Fung เป็นร้านระดับ Michelin Star + ติดอันดับ Best of Wongnai ปีล่าสุด 2015 อีกด้วย แถมโอกาสที่จะได้เจอเพื่อนๆ wongnai ด้วยกันแบบนี้ก็มีไม่บ่อย เลยพลาดไม่ได้ด้วยประการทั้งปวง
ระหว่างการทานอาหารที่นี่คุณผึ้ง ที่เป็น Brand Manager ของ Din Tai Fung ประเทศไทย ก็มาช่วยให้ข้อมูลในทุกๆจาน ทำให้ได้ความรู้และวิธีการทานที่ถูกต้อง พร้อมทั้งตอบคำถามและข้อสงสัยของพวกเรา แบบไม่เหนื่อยเลย
พนักงานของที่นี่บริการดีมาก เปลี่ยนจาน ชาม ช้อน เติมน้ำชา ให้ถี่มากโดยไม่ต้องร้องขอ บรรยากาศของสาขานี้ก็โรแมนติกใช้ได้เลย คนไม่เยอะเหมือนที่สาขา Central World ยิ่งถ้าเป็น zone ติดกระจกก็สามารถทานอาหารไป ดูวิวกทม.ไปได้ เหมาะสำหรับใครที่จะพาแฟนมาเดทเหมือนกันนะ ^^
อาหารที่ทานวันนี้ทางร้านจัดมาให้ โดยรวมคือบอกได้เป็นคำเดียวว่า “อร่อย” ครับ แต่ในรายละเอียด ขอบรรยายเป็นอย่างๆตามด้านล่างละกัน
อาหารมงคล หยือเซิง หน้าปลาแซลมอนรมควัน (Salmon Prosperity Yu Sheng / 发财鱼生) (888 บาท) – จานนี้เป็น Highlight ที่มาทานวันนี้เลย เป็นอาหารมงคลที่ชาวจีนเชื่อกันว่าส่วนผสมและเครื่องปรุงต่างๆมีความหมายอันเป็นมงคล เสริมโชคลาภเพิ่มความเป็นสิริมงคลให้แก่ผู้รับประทาน โดยจะสั่งทานได้ระหว่างวันที่ 1 กุมภาพันธ์ – 5 มีนาคม 2558 นี้เท่านั้น
ส่วนประกอบในจานนี้จะมีความหมายมงคลทั้งหมดโดยการเสิร์ฟจะเป็นแบบดั้งเดิมที่เสิร์ฟพร้อมปลาแซลมอนรมควันที่สื่อถึงความมั่งมีเงินทองใช้ไม่ขาดมือ เกาลัดที่สื่อถึงความสำเร็จโรยหน้าด้วยผงอบเชย พริกไท งาขาวและถั่วลิสงบดที่แทนคำอวยพรให้ค้าขายรุ่งเรือง มีเงินทองเต็มบ้านและมีสุขภาพสมบูรณ์แข็งแรงตามลำดับ เพิ่มรสชาติด้วยน้ำมันถั่วลิสงและซอสบ๊วยสูตรเฉพาะของติ่น ไท่ ฟงที่เป็นตัวแทนของความสุขสมหวังและความราบลื่น ปิดท้ายด้วยเผือกเส้นกรอบแทนความหมายถึงโชคลาภและอายุยืนยาว
วิธีการทานจานนี้ โดยธรรมเนียมของชาวจีนนั้นคนทานจะร่วมกันคลุกเคล้าให้ส่วนผสมต่างๆเข้ากันโดยการใช้ตะเกียบโกยส่วนผสมให้สูงๆ พร้อมทั้งกล่าวขอพร โดยมีความเชื่อว่ายิ่งสูงก็จะยิ่งได้รับพรที่ขอมาก และหากอาหารจะหกเลอะเทอะออกมานอกจานบ้างก็ถือว่ามีเหลือกินเหลือใช้ไปตลอดทั้งปี à ของโต๊ะเรานี่แทบจะหกออกไปครึ่งนึงของจานได้ แสดงว่าเหลือกินเหลือใช้กันทั้งโต๊ะ XD
เสี่ยวหลงเปา (210 บาท) – เมนูอันดับ 1 ของที่นี่เลย รสชาติน้ำซุปเค้ากลมกล่อมจริงๆ วิธีการทานคือต้องใช้ตะเกียบคีบจากด้านบนของจีบขึ้นมา จิ้มกับน้ำจิ้มที่ผสมไว้ (หรือถ้าไม่จิ้มก็จะได้รสชาติดั้งเดิม) วางไว้บนช้อน แล้วใช้ตะเกียบแหวกให้น้ำซุปไหลออกมา ก่อนจะซดน้ำซุป แล้วกินเสี่ยวหลงเปาที่เหลือ … ชอบมากกับเมนูนี้ ใครมาร้านนี้ต้องห้ามพลาดเมนูนี้ด้วยประการทั้งปวง!
เสี่ยวหลงเปาไส้เนื้อปูและหมูสับ (340 บาท) – เสี่ยวหลงเปาเข่งนี้น่ารักดี เพราะมีแครอท(สีเหลือง)รูปปูใส่มาด้วย เป็นการบอกว่าเข่งนี้เป็นไส้อะไร รสชาติก็อร่อยอีกแล้ว แต่ถ้าให้สั่งจริงๆคงเลือกสั่งแบบหมูสับธรรมดามากกว่าครับ
ซาลาเปาไส้คัสตาร์ดไข่เค็ม (118 บาท/3 ลูก) – ซาลาเปาไส้ไหล มีอักษรภาษาจีนอยู่ด้านบน อ่านว่า “ฝู๋” ซึ่งแปลว่า “โชคลาภ” พอแหวกซาลาเปาออกมาไส้ก็ไหลออกมาจริงๆซะด้วย ส่วนรสชาติขอบอกเลยว่าชอบมาก! รสหอมไข่เค็ม ไม่หวานจนเกินไป แนะนำมากๆสำหรับเมนูนี้ (สาขาเซ็นทรัลเวิล์ด – มีจำหน่าย 300 ลูก ทุกวันพุธเท่านั้น, สาขาเซ็นทรัล เอ็มบาสซี่ – มีจำหน่ายทุกวัน)
แพนเค้กกุ้งกรอบ (210 บาท) – จานนี้จริงๆทานตอนมันเริ่มหายร้อนแล้ว เพราะมัวแต่คุยกันเรื่องข้อมูลอาหารบนโต๊ะอยู่ แต่ถึงจะไม่ร้อนมาก (แต่ยังอุ่นอยู่) ก็ยังอร่อย เพื่อนร่วมโต๊ะชอบเมนูนี้กันหมด รสชาติกุ้งเป็นกุ้งจริงๆ
ปอเปี๊ยะไส้อกเป็ดรมควัน (170 บาท) – กัดเข้าไปคำแรกได้กลิ่นรมควันเต็มๆ แต่เราเองแยกไม่ออกระหว่างเป็ดรมควัน กับขาหมูรมควันแฮะ รู้แต่ว่าอร่อยดี เหมาะเป็นจานเรียกน้ำย่อย
เกี๊ยวซ่าไส้กุ้งและหมูสับ (195 บาท) – ไส้กุ้งที่อยู่ด้านใน เค้าไม่ได้ผสมกับหมูสับ แต่วางกุ้งไว้บนไส้หมูสับ เวลากัดไปก็จะได้รสชาติแยกกันชัดเจนระหว่างหมูสับกับกุ้ง ตัวแป้งจะออกหนานุ่ม
ซุปไก่ตุ๋น (195 บาท) – ซุปไก่ถ้วยนี้น้ำซุปอร่อยมาก ทางร้านใช้เวลาในการตุ๋นถึง 6 ชั่วโมง รสชาติออกมาโดนใจจริงๆ ต่างคนต่างเน้นน้ำซุปไม่สนเนื้อไก่กันเลย 555
บ๊อกชอยผัดกระเทียม (200 บาท) – บ๊อกชอยสดกรอบมากๆ พอเอามาผัดกระเทียม ทานแก้เลี่ยนได้ดีจริงๆ
ข้าวผัดกุ้ง (245 บาท) – คนที่ชอบข้าวผัดสไตล์จีนๆต้องชอบจานนี้เลย รสข้าวผัดจะไม่จัดจ้านเหมือนข้าวผัดแบบไทย แต่มีความหอมของไข่ทุกคำที่ทาน ตัวกุ้งที่ให้มาสดกรอบมาก นี่ถ้ามีพริกน้ำปลาล่ะก็รับรองว่าจานนี้ต้องเป็นเมนู top hit สำหรับชาวไทยแบบไม่ยากแน่ๆ
พุดดิ้งมะม่วง (85 บาท) – เป็นของหวานตบท้ายที่ทำให้รู้สึก Fresh ดีจริงๆ พุดดิ้งนุ่มนวล ไม่หวานเกินไป มาแบบเย็นหน่อยๆ ไม่ถึงกับเย็นจัด ตัวมะม่วงไม่เปรี้ยวหรือหวานจี๊ด เป็นขนมหวานที่รสชาติกลมกล่อมดีครับ
ชาอู่หลงมะลิ (120 บาท) – ชาอู่หลงนี่ทางร้านเติมน้ำร้อนให้เรื่อยๆเลย ทานคู่กับอาหารจีนแก้เลี่ยนได้ดีมากครับ
สรุปว่าประทับใจการมาทานวันนี้มาก เพราะนอกจากจะได้ทานอาหารอร่อยและได้ความรู้เพิ่มเติมเกี่ยวกับอาหารที่ทานแล้ว ยังได้เจอเพื่อนๆที่รักการทานอาหารเหมือนๆกันอีกด้วย สุดท้ายนี้ต้องขอขอบคุณ Wongnai และร้าน Din Tai Fung มา ณ ที่นี่ด้วย รวมทั้ง special thanks ให้กับคุณเตย & คุณตาล แห่ง Wongnai ที่ดูแลพวกเราอย่างดี ชวนคุยตลอดเวลา ขอกดให้ 100 like เลยคร้าบ XD
*** Update 1 Mar 2015 ***
วันนี้พาแม่กะโดมกลับไปทานที่สาขานี้อีกครั้ง เลยมา update menu เพิ่มเติมสักหน่อย (เฉพาะที่ไม่เหมือนเมนูด้านบน)
ขนมจีบกุ้งผสมหมูสับ (340) – เมนูนี้ทุกคนบอกเฉยๆ (มีเกี่ยงกันกินอีก -_-) เรียกว่าเป็นขนมจีบ แต่จริงๆส่วนด้านล่างเหมือนเสี่ยวหลงเปาแต่พันให้สูงขึ้นแล้วแปะกุ้งเพิ่มขึ้นด้านบน มีความรู้สึกเหมือนแป้งหนากว่าเสี่ยวหลงเปาด้วย ไม่รู้คิดไปเองป่าว
ไก่แช่เหล้า (175) – จริงๆเราเฉยๆกับไก่แช่เหล้า แต่น้องชายอยากลอง แล้วก็บอกว่ากลิ่นเหล้าอ่อนไป สรุปเฉยๆอีกจาน
ซุปซี่โครงหมูตุ๋นเสิร์ฟพร้อมบะหมี่ (260) – บะหมี่กับซุปจะมาแยกกัน ตัวซุปจะจืดๆหน่อย ตัวซี่โครงหมูอร่อยใช้ได้เลย แต่โดยรวมจืด ให้เฉยๆไปอีกจาน
ข้าวผัดหน้า Pork Chop (230) – จานนี้ชอบกันทุกคน ข้าวผัดยังคงอร่อยเหมือนเดิม Pork Chop ก็โอเคดี แต่เทียบกันแล้ว เราชอบข้าวผัดกุ้งที่ทานครั้งที่แล้วมากกว่านิดๆ
ซาลาเปาไส้งาดำ & ไส้เผือก (28/ลูก) – เผือกออกจะจืดๆกว่าที่คิดไปนิด ส่วนไส้งาดำก็ธรรมดาๆ
ซาลาเปาไส้ผัดปูผสมหมูสับ (35/ลูก) – รสชาติออกเผ็ดเลย ซาลาเปาลูกนี้น้องกะแม่บอกไม่ชอบทั้งคู่ -_-”
ปอเปี๊ยะทอดไส้เผือก (120) – จานนี้ยกให้เป็นของว่างที่อร่อยเลยนะ ปอเปี๊ยะทอดมากรอบๆ เข้ากับไส้เผือกได้อย่างพอดี ชอบกันหมดทุกคน
Leave a Reply