Eating and temples trip on my Birthday, July 21st
วันเกิดปีนี้ตั้งใจว่าจะหยุดงานไปทำบุญ จริงๆตั้งแต่ทำงานมาไม่เคยหยุดงานเลย แต่มีคนบอกมาว่า เนี่ยะวันเกิดเค้าไม่ให้ทำงานกันนะ ไม่งั้นจะต้องทำงานหนักในปีต่อไป … ไอ้เราก็ลองคิดๆดู เออหว่ะทำไมตูงานเยอะตลอด ไม่ว่าจะอยู่ที่ไหนไม่เห็นเคยมีงานสบายเลเลยขอลองตามเคล็ดนี้สักหน่อยท่าจะดี … เลยจัดแจง submit วันลาไปซะตั้งแต่อาทิตย์ก่อนเลย รวมทั้งไปเตรียมซื้อของทำบุญไว้ตั้งแต่ weekend เลย กะว่าหลังจากวันเกิดปีนี้ไปทุกอย่างต้องดีขึ้นๆแน่ๆ หุ หุ …
พอถึงวันเกิด ก็ตื่นเช้าออกมาตักบาตรแถวบ้านก่อนเลย เอาฤกษ์ พอสายๆก็ออกเดินทาง ขับรถมุ่งหน้าไปจ.สิงห์บุรี โดยมีเป้าหมายแน่นอนว่าเราจะไปวัดอัมพวันเผื่อจะได้เจอหลวงพ่อจรัญฯ เพราะเคยได้ยินชื่่อเสียงมานาน แต่ไม่เคยไปสักทีเลย คราวนี้เลยได้โอกาส … แต่ก็มีความตั้งใจอีกอย่างด้วย คือของที่จะเอาไปทำบุญนี่กะจะทำที่วัดอื่นๆด้วย ขอเป็นวัดที่คนน้อยๆไม่ค่อยมีคนไปหน่อยจะดีมาก จริงๆแล้วตัวเราเองจะชอบไปวัดที่คนไม่ค่อยรู้จัก มันเงียบสงบดี รู้สึกไม่ต้องรีบๆเร่งๆ สบายๆ … ขับรถออกมาจากกรุงเทพตอนเกือบ 11 โมง กะว่าจะไปหาข้าวอร่อยๆกินแถวนั้นเลย .. และแล้วววว ก็ได้ลองสักทีกับร้านดังร้านนี้ … "กุ้งเผาทองชุบ" เห็นใน pantip มาหลายกระทู้แล้ว ได้โอกาสลองสักที … ร้านนี้เป็นร้านอยู่ติดริมแม่น้ำเลย ตอนที่ไปถึงก็เที่ยงกว่าๆ มีข้าราชการตำรวจมาทานกันเยอะมาก บรรยากาศก็สบายๆ ลมพัดเรื่อยๆ ไม่ร้อนเลย
ไปถึงด้วยความหิวก็รีบๆดูเมนู เห็นแล้วก็อยากกินไปซะทุกอย่าง แต่ด้วยความที่ไปแค่สองคน จะสั่งเยอะก็ไม่ได้ เลยสั่งได้เท่าที่เห็นในรูป (ยังไม่เยอะอีกเหรอฟะนี่ ^^") … ที่นี่ขึ้นชื่อเรื่องกุ้งแม่น้ำมากๆ เลยสั่งมา 2 ตัว กุ้งที่นี่ขายกิโลละ 900 อย่างที่เราสั่งมา 2 ตัวนี่ก็ 630 บาท คือโลนึงจะได้ประมาณ 2 ตัวกว่าๆไม่ถึง 3 ตัวอ่ะนะ … สั่งกุ้งเผาธรรมดาๆนีเลย แล้วให้เค้าเอาหัวกุ้งไปทำต้มยำให้ เอาไว้ซดน้ำเฉยๆ … อย่างอื่นๆที่สั่งอีกก็มีห่อหมก (อร่อยมากๆ), ปลาเนื้ออ่อนทอดกระเทียม, แกงป่าลูกชิ้นปลากราย (ลูกชิ้นหนึบมากๆ อร่อยของจริง) … กินแล้วบอกได้คำเดียวว่าอาหารร้านนี้รสชาติเผ็ดจัดจ้านบ้านๆได้ใจมากๆเลยอ่ะ ใครผ่านมาทางนี้ต้องไม่ลืมแวะมาทานให้ได้เลยนะ
ออกจากวัดอัมพวันก็ไปต่อกันที่วัดพระปรางค์มุนี ที่มีมักกะลีผลอยู่ หลวงพี่วัดนี้ใจดีมากๆ เปิดห้องที่เก็บให้ดูด้วย เพราะตอนไปถึงห้องนี้ปิดไปแล้วน่ะ อ่อวัดนี้มีสัตว์สตาฟเป็นช้างกับสุนัขด้วยนะ
ออกจากวัดก็มุ่งหน้ากลับกทม. แวะรับโดมที่มธ.รังสิตเพราะไปทำโปรเจคให้บริษัทแถวนั้นพอดี เสร็จแล้วก็บึ่งไปรับท่านแม่ที่อู่ เพราะคืนนี้เราจะไปทานข้าวกัน … ถามทุกคนไม่มีใครออกไอเดียเลยว่าอยากไปไหน ไอ้เราก็อยากอาหารอะไรก็ได้ที่ไม่เผ็ดอ่ะ เพราะว่าอาหารเมื่อกลางวันน่ะ มันอร่อยนะแต่เวลาเรากินของเผ็ดมากๆ จะรู้สึกร้อนท้องตลอด ไม่ดีเลย พอตกตอนเย็นนี่เลยต้องหาอาหารที่ไม่ค่อยเผ็ดกินแทน … คิดไปคิดมาก็อาหารญี่ปุ่นนี่แหล่ะ เลยไปกันที่ Esplanade เลย ร้านวาซาบิ ชั้นขายตั๋วโรงหนังนั่นเอง ร้านนี้บรรยากาศดี พนักงานมารยาทดี …. เป้าหมายที่เราอยากมาลองมากๆวันนี้คือชาบูน้ำเต้าหู้ ส่วนอย่างอื่นๆก็เพลนๆ ดูได้ตามรูป สรุปว่าอาหารมื้อนี้อร่อย ชาบูอร่อยสมกับที่ตั้งใจมาทานเลย ส่วนอย่างอื่นๆก็คุณภาพดี อร่อย ไม่เสียแรงที่มา ^^
Extra: ส่วนของขวัญวันเกิดจากท่านแม่ในปีนี้ถูกบังคับซื้อให้คือ VAIO ตัวใหม่ที่กำลังใช้อยู่ ณ ตอนนี้ & กล้อง canon ixus 110is ที่ดูผลงานได้จากรูปใน post นี้แหล่ะ … ท่านแม่ซื้อกล้องให้ก่อนล่วงหน้า ส่วน vaio จริงๆก็จะได้ล่วงหน้าเหมือนกัน แต่ไปที่ร้าน sony แล้วสีเงินที่อยากได้ดันหมด พนักงานก็บอกว่า เอาสีชมพูไปแทนสิครับ สวยนะ (คิดในใจ … สีชมพูมันเข้ากับหน้าเราม๊ากมากเลยเนอะนี่ ^^") เลยบอกว่าไม่เป็นไรพี่ เดี๋ยวโทรมาเช็คใหม่เรื่อยๆ และสุดท้ายก็เลยได้ซื้อมาในวันเสาร์ที่ผ่านมา … ส่วนเหตุผลที่ท่านแม่บังคับให้ซื้อ desktop เนี่ยะ มันมีที่มานะ ….คือตั้งแต่กลับจากเมกาฯมาเราใช้แต่ notebook อย่างเดียวเลย เวลาแม่เข้ามาในห้องเห็นเราทำงานกับจอเล็กๆของ notebook แล้วชอบบ่น บอกว่าอยากให้ใช้จอใหญ่ๆ เดี๋ยวสายตาเสียหมด … ไอ้เราก็ปฏิเสธมาตลอด บอกว่าใช้แบบนี้สบายดี เวลานั่งเล่นเบื่อๆ ก็เอามานอนเล่นบนเตียงได้ด้วย สบายจะตาย … แต่สุดท้ายขัดท่านแม่ไม่ได้ (คือจริงๆไม่อยากฟังแม่บ่นแล้วนั่นแหล่ะ 5 5 5) เลยได้มาด้วยประการฉะนี้ … จบ
Leave a Reply