My new car Mazda 3 2017!

หลังจากใช้ Honda Jazz มา 7 ปีกว่าๆละ เริ่มอยากได้รถที่ใหญ่ขึ้น เวลาพาที่บ้านไปเที่ยวต่างจังหวัดจะได้ขับรถตัวเองพาไปง่ายๆ เพราะคุณนายแม่ก็ใช้รถ Citroen DS3 ที่เป็นรถแนว Sport 2 ประตู ขึ้นลงก็ลำบาก ส่วนคุณน้องชายก็ไม่ขับรถ แถมตัวใหญ่มากกกก เวลาไปไหนมาไหนไกลๆรู้สึกไม่ค่อยสะดวกเท่าไหร่ เลยเริ่มมองๆหารถที่จะตอบโจทย์ได้ด้วยราคาประมาณไม่เกินล้านต้นๆ โดยตอนแรกลังเลมากว่าหรือจะไปแนว SUV แบบ CX-3, HR-V ดีนะ แต่จากที่ศึกษามา ถ้าไม่มีความจำเป็นต้องขนของ ลุยเยอะๆ หรือคอยหนีน้ำท่วม การใช้รถแบบ Sedan ทั่วไปย่อมดีกว่าในแง่ของการขับขี่ สุดท้ายจากที่ดูรีวิวแล้วเลยตัด choice เหลือแค่ Honda Civic 2017 กับ Mazda 3 2017 โดยมองเป็นรุ่น Hatchback 5 ประตู และรุ่น Top ทั้งสองยี่ห้อ

จากการที่ได้ไปลองขับมา เราว่ารถทั้ง 2 รุ่นมีข้อดีของตัวเอง แต่สุดท้ายเราเลือก Mazda 3 2.0 SP Sports เพราะชอบความสนุกในการขับขี่เป็นหลัก จากที่ได้ลองขับ Civic จะเป็นแนวออกผู้ใหญ่ๆหน่อย ส่วน Mazda 3 จะมีความรู้สึกเหมือนขับรถแข่งนิดๆ ให้ความรู้สึกเร้าใจจริงๆ แถมเมื่อต้นปี 2017 ที่ผ่านมาก็มี Minor Change เพิ่มระบบ G-Vectoring Control ที่ช่วยเรื่องการเข้าโค้ง และถ้าซื้อรุ่น Top ก็จะได้ระบบความปลอดภัย i-ACTIVSENSE เพิ่มมาอีกเพียบ! ตอนแรกบอกเลยว่าเลือกยากมาก ติดตรงที่ Mazda 3 ออกมา 2-3 ปีแล้ว กลัวมันจะ Model Change ไปก่อน ในขณะที่ Civic โฉมนี้เพิ่งเปิดตัวเมื่อปี 2016 นี่เอง คิดไปคิดมาสุดท้ายมีตัวช่วยสุดท้ายในการตัดสินใจคือสีรถ! คือเราอยากได้รถสีฟ้า ในขณะที่ Civic ไม่มี และเราก็ไม่อยากได้รถสีพื้นๆอย่างขาว เทา เงิน ดำ มันออกแนวน่าเบื่อๆ สุดท้ายเรื่องสีรถเลยเป็นเรื่องที่ช่วยตัดสินใจไปเลย

จากนั้นคือเริ่มคุยกับ Sales หลายๆศูนย์เพื่อเปรียบเทียบราคา/ดอกเบี้ย/ของแถม จริงๆใจอยากออกรถจากศูนย์ใกล้บ้านอยู่แล้ว แต่ ณ ตอนนั้นเค้ายัง offer มาไม่น่าสนใจเท่าไหร่ แต่ข้อดีจากการที่ไปคุยหลายๆที่ ทำให้เราได้ offer ที่ดีที่สุดที่เราพอใจ แล้วเอามาคุยกับศูนย์ที่เราอยากออกรถ เค้าก็ให้ได้เหมือนๆกัน + จะมีแถมเพิ่มนั่นนี่ให้อีกนิดหน่อย  สุดท้ายก็จบลงที่ศูนย์แถวๆบ้านเลยคือที่ Wearnes ตรงถนนวิภาวดี ก่อนถึงสุทธิสาร Sales ที่คุยชื่อ K.Big คุยดี เอาใจใส่ดีเลย แต่เคสของเรามีปัญหาหน่อยคือเราอยากได้รถสีฟ้า Eternal Blue ทางเซลล์บอกว่ารถสีนี้ไม่มีเลย ต้องรอหน่อย เพราะคนทั่วๆไปไม่เล่นสีนี้ ถ้าเป็นสีอื่นมีพร้อมรับได้เลย แต่เราก็ยังยืนยันว่าจะเอาสีนี้ ทั้งๆที่จริงๆแล้วตอนนั้นก็หวั่นใจนิดๆ เพราะไม่เคยเห็นสีนี้ในถนน หรือตามโชว์รูมของจริงเลย แต่ก็ไปหาดูรีวิวเอาจากเวบเมืองนอก ก็พอหาได้ ดูสวยดี ก็เลยเอาวะ สีที่ชอบ ลองดูๆ 555+ สุดท้ายเลยรอรถอยู่ประมาณ 2-3 อาทิตย์ มาได้เอาช่วงหลังสงกรานต์ เราดูฤกษ์แล้วเลยนัดรับรถวันพฤหัสที่ 27 เมษายน 2017 ช่วงบ่ายๆ ก่อนหน้านั้นทางศูนย์ก็จะได้มีเวลาเอารถไปติดฟิล์ม ติด options ฯลฯ ให้เรียบร้อย โดยฟิล์มขอเลือกเป็น 3M บานหน้า FX-30 (50%) รอบคัน FX-20 (60%)

สรุปรายการของแถม 

• ดอกเบี้ย 1.99% Tisco
• ส่วนลด 30,000
• ประกันชั้น 1
• พรบ.
• ฟิลม์ Lamina, Super Hi-Kool, 3M เลือกได้
• พรม (มาพร้อมตัวรถ)
• ผ้ายางแท้
• กรอบป้าย
• คิ้วกันสาด (แท้)
• สครับเพลท (แท้)
• ถาดท้าย (แท้)
• พ่นเคลือบสี
• พ่นกันสนิม
• ชุดแต่งรอบคัน (ซัพ) –> Sales บอกว่าชุดแต่งจะเป็นสีดำ แต่มีให้เลือก 2 อย่างคือดำขลิบแดง หรือดำขลิบเงิน เราเลือกเป็นดำขลิบเงิน
• กล้องติดหน้ารถ Transcend 100 –> อันนี้เราขอเพิ่ม 2000 upgrade เป็น Trancend 220 แทน เพราะมี GPS, Parking Mode, Wifi เพิ่มเข้ามาให้ลองเล่น
• Warranty 3ปี/100,000km

สรุปค่าใช้จ่ายวันรับรถ

เนื่องจากเราให้โจทย์ทาง Tisco ไปว่าเราอยากผ่อนหมดใน 3 ปี และอยากผ่อนเดือนละ 20,000 ถ้วนๆ ให้ช่วยคิดเงินดาวน์มาให้เลย ก็เลยได้จำนวนเงินดาวน์ออกมาที่ 409,562 บาท มาดูรายละเอียดวันที่ไปรับรถตามนี้

• รถ Mazda 3 2.0SP Sports = 1,119,000 บาท
• ราคารถ หลังหักส่วนลด 30,000 แล้ว =1,089,000 บาท
• เงินดาวน์ = 409,562
• สรุปเงินกู้ Tisco = 679,438 ผ่อนเดือนละ 20,000 3 ปี (คิดเป็นดอกเบี้ย 3 ปี 40,562 บาท)
• หักเงินจอง -10,000. (รูดการ์ดวางจองไป 10,000)
• ค่าจดทะเบียน +5,200.
• ค่ามัดจำป้ายแดง +2,000 (ได้คืน)
• เพิ่มเงิน upgrade กล้องหน้า จาก transcend 100 เป็น 220 +2,000
• รวมสุทธิ. 408,762** บาท เป็นจำนวนที่ต้องไปซื้อ Cashier Check แล้วเอาไปให้ทางศูนย์วันรับรถ

27-Apr-2017 ไปรับรถช่วงบ่าย รถถูกทำ Spa มาเรียบร้อย เงาแว๊บ เห็นแล้วรักเลย ? ใช้เวลาตรวจรับรถอยู่พักใหญ่ๆ ทุกอย่างเกือบพ้นไปด้วยดี ติดตอนสุดท้ายคือขั้นตอนทดสอบ Navigator โดยที่ทาง Sales จะเอา SD Card Navigator มาเสียบเพื่อใช้งาน แต่พอเสียบไปแล้วมันขึ้นว่า “SD Card ไม่ถูกต้อง” ลองกี่ทีก็ไม่ได้ สุดท้ายเลยคาดว่าน่าจะเป็นที่ตัวการ์ดมีปัญหา ทางเซลล์เลยขอเวลาส่งเคลมการ์ดใหม่

Update 6-May-2017 Sales โทรมาบอกว่าได้การ์ดใหม่มาแล้วให้เข้าไปที่ศูนย์ ไปถึงลองเสียบการ์ดดู ขึ้นเหมือนเดิมคือ “SD Card ไม่ถูกต้อง” สุดท้ายยังใช้ไม่ได้ พอเอาการ์ดนี้ไปลองที่รถ Test Drive คันอื่นก็ใช้ไม่ได้ ทางศูนย์เริ่มงงบอกว่าไม่รู้เพราะอะไร ขอเวลาหาสาเหตุที่แท้จริงแล้วจะรีบติดต่อมาบอก ถามไปว่าไม่เคยเจอปัญหานี้เลยเหรอ เค้าก็บอกว่าเคยเจอบ้าง แต่เปลี่ยนการ์ดก็หาย แต่สำหรับเคสของเราเปลี่ยนไป 2 การ์ดแล้วไม่หาย เอาการ์ดใหม่ไปลองเทสกับรถคันอื่นแล้วก็ใช้ไม่ได้เหมือนกัน ยังงี้มันแปลกๆแระ เค้าก็ยังตอบเราไม่ได้ ก็จะลองดูต่อไปว่าเป็นเพราะอะไร ดีที่เราก็ไม่ได้รีบใช้ เลยไม่หงุดหงิดอะไรมาก แค่สงสัยว่าทำไมมาสด้าถึงไม่สามารถเทสระบบนี้ให้เสร็จเรียบร้อยก่อนนัดลูกค้าไปรับรถ??? มันทำให้ดูไม่ค่อย professional เท่าไหร่ และหลังจากเจอปัญหาก็ผ่านมาสองอาทิตย์กว่าแล้ว ก็ยังแก้ปัญหาไม่ได้ ดีที่เป็นปัญหาไม่ใหญ่อะไรสำหรับเรา เพราะไม่ได้คาดหวัง navigator ที่แถมมากับรถเท่าไหร่ แต่ก็ทำให้ไม่ค่อยโอเคกับ support ของ mazda สักเท่าไหร่เลยแฮะ

Update 23-May-2017 ตามทาง sale บอกว่ายังหา solution ไม่ได้ เรารู้สึกว่ามันนานไปแล้ว เพราะได้รถมาจะครบเดือนอยู่แล้วก็ยังใช้ไม่ได้ คืนนั้นเลยทำการร้องเรียนไปทาง Mazda ผ่านทาง Online Form เท่านั้นแหล่ะ วันรุ่งขึ้นทาง Sale โทรมาบอกเลยว่าหา Solution ได้แล้ว ต้องทำการ Update Software ! เราเป็นงงว่าทำไมต้องทำเรื่องร้องเรียนก่อนเหรอถึงจะได้ Solution?! แต่ก็นะเรื่องการบริการจากทาง Mazda เราไม่ได้คาดหวังมากอยู่แล้ว เลือกรถยี่ห้อนี้เพราะชอบสมรรถะล้วนๆ ไม่งั้นคงไม่ใช้มาเป็นคันที่ 3 แล้วหรอก 

หลังจากเอารถไป Update Software แล้วก็ได้มาเป็น OS Version 59.00.502 4A N แล้วก็ใช้ GPS ได้ไม่มีปัญหา แต่เราว่า Google Map ยังใช้งานได้ดีกว่าเยอะอยู่นะ แต่อันนี้ก็ไม่ถึงกับแย่นะ พอได้ๆ แต่การแสดงผลบางทีก็งงๆหน่อย ?

วันไปรับรถที่ศูนย์ 

รอบนอกรถ

ของแถมที่ได้ พวกชุดแต่งจะเป็นของซัพ นอกนั้นเป็นของแท้ (คิ้วกันสาด, สครับเพลท, ยางรองท้ายรถ)

Youtube : พาดูด้านใน-ด้านนอก

ความรู้สึกหลังจากที่ได้ลองขับ

โอโห้มันส์มากพะยะค่ะ มันเร่งได้ตามใจคิดจริงๆ ระบบ i-ACTIVSENSE นี่ก็เยอะแยะมากมาย Hi-Tech จริง จอขนาด 7 นิ้วตรงกลางที่ตอนแรกเคยไม่ชอบเวลาไปดูตามโชว์รูม เพราะรู้สึกว่าทำไมจอมันต้องตั้งโด่ๆขึ้นมาด้วย พับก็ไม่ได้ ตอนนั้นชอบจอที่ติดไปในแผงคอนโซลแบบ Honda มากกว่า แต่พอมาขับจริงๆ กลับชอบจอแบบนี้มากกว่า เพราะเวลาขับรถไปด้วย มองจอไปด้วย จอที่อยู่ในระดับนี้มันเหมาะกับสายตามากกว่าจริงๆ ไม่ต้องเหลือบต่ำลงมามองเลย ส่วนพวกระบบของรถ สามารถ customize ได้จากจอ ทั้งระบบด้านความปลอดภัย, ระบบล็อครถ, ฯลฯ Features เยอะขนาดที่ว่าคู่มือของคันนี้หนานิ้วกว่าๆ หนักมากๆ

วัสดุภายในถือว่าดีกว่าคู่แข่ง และเป็นอีก 1 เรื่องที่ทำให้ชอบ Mazda 3 มากกว่า Civic โดยเฉพาะพวงมาลัย ให้ความรู้สึกดีมากเวลาวางมือ คือสรุปว่าไม่ผิดหวังเลยที่เลือกซื้อรถคันนี้และสีนี้มา เพราะเป็นสีฟ้าแบบที่ชอบเลยล่ะ แถมยังไม่เห็นในถนนด้วย คนคงสั่งน้อยมากจริงๆตามที่เซลล์บอก เค้าบอกว่ามันจะทำให้ขายต่อยาก แต่เราไม่ค่อยสนใจเรื่องนี้เท่าไหร่ คิดแต่ว่าอยากใช้สีไหน ก็ควรต้องเลือกสีนั้นสิ รถเราใช้ยาวๆอยู่กับเราหลายปี ก็ต้องเป็นอะไรที่เราชอบและ Happy ที่จะอยู่กับมันสิ

ฟิล์ม 3M ที่ติดมาด้านหน้า 50% รอบคัน 60% ถือว่ากำลังดีกับเราเลย จากที่ขับทั้งกลางวันกลางคืนแล้วไม่มีปัญหา เห็นสว่างชัดดีมาก ส่วนระบบเครื่องเสียงของรถคันนี้ถือว่าทำได้ในระดับที่น่าพอใจ แต่ไม่ได้หวือหวา ระหว่างที่ขับก็จะมีระบบที่ได้ใช้บ่อยๆอย่างระบบช่วยเตือนรถในจุดอับสายตา เวลาเราจะแซงซ้าย-ขวา อันนี้มีประโยชน์มากๆและได้ใช้บ่อยที่สุด เพราะถนนบ้านเรานี่มีแต่รถเสียบมาข้างๆตลอดเวลา โดยเฉพาะพวกมอเตอร์ไซค์ อีกอย่างที่ชอบคือระบบที่ช่วยเวลาอยู่บนทางลาดชัน HLA (Hill Launch Assist) แล้วเกิดรถติด รถมันจะหน่วงๆป้องกันไม่ให้ไหล เวลาเราถอนเท้าจากเบรคไปเหยียบคันเร่ง

การขับขี่รถคันนี้ถือว่ามันส์จริงๆ มี mode การขับขี่ให้เลือกหลายแบบ ทั้งแบบเกียร์อัตโนมัติ หรือเป็นแบบ Manual ได้ ถ้าวิ่งทางไกลก็ยัง set cruise control ได้ โดยสามารถใช้ปุ่มบนพวงมาลัยเพิ่มลดความเร็วที่ set ได้ หรือจะใช้ paddle shift ที่มีมาให้ก็ได้ นอกจากนั้นรถคันนี้ยังมี mode sports มาให้ด้วย คือถ้าอยากอัดความเร็วขึ้นไปอีก เปิด mode นี้เลย รถลื่นปรี๊ด แต่ก็ซดน้ำมันมากกว่าด้วย

ไฟ LED แบบ Adaptive นี่ก็ส่องสว่างตอนกลางคืนดีมาก และมันสามารถปรับเปลี่ยนลดระดับแสงให้ไม่แยงตาเป็นอันตรายต่อรถคันอื่นๆด้วย ชอบเลย ดีทั้งต่อเรา+คนอื่นในเวลาเดียวกัน

Mazda Radar Cruise Control (MRCC) นี่เราได้ลองไปนิดหน่อย คือลอง Set Speed โดยใช้ Cruise Control ก่อน แล้วปล่อยให้รถขับไป พอคันหน้าชลอความเร็ว หรือมีรถเลนข้างๆแทรกเข้ามารถก็จะทำการชลอความเร็วให้ด้วย และพอรถคันหน้าทิ้งห่างออกไป รถก็จะเพิ่มความเร็วให้ขึ้นไปเท่ากับความเร็วที่เรา Set ไว้ตอนต้น เจ๋งมากเลย แต่ส่วนใหญ่ขับรถอยู่ในกทม. หาโอกาสใช้ยากอ่ะ อีกอย่าง เรามีความรู้สึกว่ายังชอบการขับเองมากกว่า มันได้อารมณ์สนุกมากกว่า แต่เอาจริงๆยังไม่ได้ไปขับทางไกลๆมากๆ ถ้าขับนานมากๆอาจจะได้ใช้ประโยชน์ตรงนี้มากขึ้น เพราะเรา Test แค่ตอนขับไปพัทยาใกล้ๆแค่นี้เอง

แต่ที่รำคาญอยู่หน่อยๆคือบางทียังติดเบี่ยงออกเลนซ้าย-ขวาโดยไม่ได้เปิดไฟเลี้ยว ไอ้เจ้าระบบ Lane-keep Assist System (LAS) มันจะทำการเตือนเพราะนึกว่าเราเผลอออกนอกเลนโดยไม่ตั้งใจ โดยการสั่นๆขืนๆที่พวงมาลัย จริงๆเหมือนจะปิดระบบนี้ได้ แต่ไม่แน่ใจว่าถ้าปิด feature นี้ มันจะไปมีผลกับการเตือน feature อื่นๆด้วยไหม เลยปล่อยไว้ เพราะจริงๆมันก็เป็น practice ที่ดีที่ควรเปิดไฟเลี้ยวขอทางทุกๆครั้ง ควรต้องหัดให้ชินจริงๆ ?

สรุปว่าหลังจากใช้มาหลายวัน ชอบมากกกกกกก หลังจากนี้คงเอาเวลาไปหาเรื่องทำ Road Trip แระ แล้วจะแวะมา update review post นี้เรื่อยๆ

ส่วนข้อมูลต่างๆด้านล่างนี้ copy มาจากเวบของ Mazda 3 Thailand เอามาแปะไว้ Reference + Brochure

Specification:

Commercial Video

Interior Design

Technology i-ACTIVESENSE 

SKYACTIV-VEHICLE DYNAMICS: G-Vectoring Control (GVC)

https://youtu.be/WgKVPBx6RvE